กรุงเทพฯ 15 ต.ค. – การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาด กนง.จะยังคงดอกเบี้ยที่ระดับ 2.50 % อย่างไรก็ตาม รมว.พาณิชย์ เห็นว่า กนง.น่าจะพิจารณาลดดอกเบี้ย พร้อมเผยรัฐบาลแถลงกระตุ้น การใช้จ่ายอีกในวันพรุ่งนี้
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานเปิด “โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะมีภาครัฐและเอกชนร่วมแถลง โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะดึงคนตัวใหญ่มาช่วยคนตัวเล็กในประเทศ เพื่อช่วยลดรายจ่ายให้ผู้ประกอบการรายเล็ก ลดค่าเช่าแผง/ร้านค้า ในพื้นที่หน่วยงานราชการและเอกชน รวมถึงลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ และจัดมหกรรมลดราคาสินค้าต่อเนื่องตลอด 5 เดือนเต็ม โดยจัดกิจกรรมนำร่องตั้งแต่เดือน ก.ย.67 จนถึงเดือน ม.ค.68 และนายกฯจะไลฟ์พูดคุยกับผู้ประกอบการ และถ่ายทอดบรรยากาศกิจกรรมฟื้นฟูจากสถานที่จริงในทุกภูมิภาค 5 แห่ง ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดลพบุรี จังหวัดอุดรธานี จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดเชียงราย เป็นการต่อยอดจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจโอนเงิน 10,000 บาท เม็ดเงินรวม 145,000 ล้านบาท
นายพิชัย ยังคาดหวังว่า วันพรุ่งนี้ในการประชุม กนง.จะมีมาตรการด้านการเงินช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มเติมจากที่ภาครัฐออกหลายมาตรการรวมไปถึงมาตรการการคลัง โดยที่ผ่านมาหลายประเทศ ออกมาตรการลดดอกเบี้ย เช่น เกาหลีใต้ ทางธนาคารกลางของจีนก็ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ด้วยดอกเบี้ยและมากตรการอื่นๆ และมีรายงานข่าวว่าจีนอาจออกพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวพิเศษเพื่อระดมทุน 6 ล้านล้านหยวน (8.46 แสนล้านดอลลาร์) ภายในระยะเวลา 3 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา
“หาก กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% ก็คาดหวังว่าจะช่วยลดทั้งด้านต้นทุนของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี เพราะก่อนที่ธนาคารสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยไปแล้ว 0.50 % ต้นทุนดอกเบี้ยโลกก็มีการเปลี่ยนแปลง ก็หวังว่าดอกเบี้ยไทยจะไปในแนวทางเดียวกัน และขอให้ กนง.ดูว่าจะทำอย่างไรให้เงินบาทของไทยไม่แข็งค่าเร็ว หรือให้มีสเถียรภาพจะได้ไม่เป็นภาระของผู้ส่งออก” นายพิชัย กล่าว
นส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ที่ปรึกษา สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า อยากเห็น กนง.เข้ามาบริหารจัดการค่าเงินไม่ให้ผันผวนเร็วเกินไปปีนี้ผันผวนมาก โดยช่วงแข็งค่าก็เร็วกว่าภูมิภาค ทำให้ปีนี้เป็นวิกฤติหนักสำหรับผู้ส่งออกทั้งปัญหาเงินบาท และค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัญหาสงครามในตะวันออกกลาง
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผอ.ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก คาด กนง.พรุ่งนี้ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% ตามเดิม การลดดอกเบี้ยครั้งแรกอาจเริ่มในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า กนง. อาจมีมติ 6-1 หรือ 5-2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% ตามเดิม การลดดอกเบี้ยครั้งแรกอาจเริ่มในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมิน คาดพรุ่งนี้ กนง.ยังมีมติไม่เป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% แต่ คาดว่า กนง. คงมีท่าทีผ่อนคลายต่อทิศทางนโยบายการเงินมากขึ้น โดยส่งสัญญาณเปิดโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า และ กนง.อาจเริ่มปรับลดดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในเดือน ธ.ค. 2567 ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่เป็นไปอย่างเปราะบาง แรงกดดันเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักทั่วโลกที่อยู่ในฝั่งผ่อนคลาย
การประชุม กนง. ครั้งนี้ จะมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ธปท. อาจยังคงประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อไทยปี 2567 ไม่แตกต่างจากการเผยแพร่ครั้งก่อนหน้าเท่าใดนัก อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่ ธปท. อาจปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 จากประมาณการครั้งก่อนหน้าที่ 3.0% ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าคาดหวัง ธปท.เร่งพิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 0.25% ภายในปี 2567 และลดลงอีก 0.25-0.5% ภายในปี 2568 จะช่วยลดผลกระทบเศรษฐกิจได้เร็วและส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ. -511- สำนักข่าวไทย