นายกฯ ชื่นชม ศปช.บูรณาการแก้ปัญหาเยียวยาผู้ประสบภัยได้รวดเร็ว

กรุงเทพฯ 14 ต.ค. – นายกฯ ชื่นชม ศปช. เป็นโมเดลบูรณาการติดตามเร่งรัดแก้ไขปัญหา ฟื้นฟูพื้นที่และเยียวยาผู้ประสบภัยได้รวดเร็ว มีเอกภาพ คาดกู้คืนพื้นที่น้ำท่วมทันสิ้นเดือนนี้ ก่อนเดินหน้ากระตุ้นท่องเที่ยวเหนือรับไฮซีซั่น ดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของ ศปช. ในการแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ช่วงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง บูรณาการร่วมแก้ปัญหา โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. มอบหมายให้คณะทำงาน ศปช. ติดตามสถานการณ์น้ำและหาแนวทางแก้ไขให้ประชาชนทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ทั้งการแจ้งเตือน ฟื้นฟู ช่วยเหลือเยียวยา ทั้งการดำเนินชีวิตและเยียวยาสภาพจิตใจ ขณะเดียวกัน ยังมี ศปช.ส่วนหน้า ดูแลและประสานหน้างาน หารือส่วนราชการ ทำให้การทำงานในพื้นที่มีความคืบหน้าทุกวันเวลา นำโดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะที่ปรึกษา ที่ปักหลักเร่งรัดการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานให้เต็มศักยภาพและรวดเร็ว จนถึงขณะนี้เป้าหมายเพื่อให้ประชาชนกลับเข้าบ้านดำเนินชีวิตได้ตามปกติใกล้ความจริงแล้ว

“ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา หน่วยงานต่างๆ ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเต็มที่ ทั้งที่เชียงราย เชียงใหม่ จนถึงขณะนี้เส้นทางสัญจรทางถนน-รถไฟที่เคยถูกน้ำท่วม ใช้ได้ตามปกติแล้ว ส่วนการดำเนินชีวิตของประชาชนภาพรวม เริ่มทยอยกลับเข้าบ้าน สามารถใช้น้ำประปา-ไฟฟ้าได้แล้ว บ้านประชาชนที่เสียหายทั้งหลัง ก็ได้สร้างบ้านน็อกดาวน์ให้โดยกรมราชทัณฑ์ เหลือที่ อ.แม่สาย ที่ต้องใช้เวลากู้คืนพื้นที่ โดยเฉพาะการดูดดินโคลนในท่อระบายน้ำและอาคารบ้านเรือนที่ยังมีดินโคลนอยู่ ขณะเดียวกัน ต้องเร่งกำจัดขยะที่ตกค้างด้วย คาดว่าภาพรวมจะฟื้นฟูแล้วเสร็จ ภายในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ตามแผน Quick Win และบางจุดจะเป็นไปตามกรอบที่จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ส่วนที่ จ.ลำพูน บางแห่งที่ยังมีน้ำท่วมขัง ก็ได้เพิ่มเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออก แนวโน้มระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง และ ศปช. ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนภาคใต้อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที” นายจิรายุ กล่าว


นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลได้ปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อัตราเดียวครัวเรือนละ 9,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุทกภัย และมีค่าช่วยล้างดินโคลนบ้านน้ำท่วม หลังละ 10,000 บาท ทั้งนี้ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 17 กันยายน และวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา มีประชาชนยื่นคำร้องในระบบ 57 จังหวัด 200,330 ครัวเรือน ปภ.ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินแล้ว 7 ครั้ง ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และสุโขทัย ล่าสุดธนาคารออมสินโอนเงินสำเร็จผ่าน promptpay แล้ว 6 ครั้ง ให้ 17,352 ครัวเรือน จำนวนเงินกว่า 86,888,000 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ต.ค.67)

“การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นอีกเรื่องสำคัญ ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการในทุกขั้นตอน เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับเงินช่วยเหลือเร็วที่สุด หากประชาชนติดขัดปัญหาในขั้นตอนใด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เทศบาล / อปท.ในพื้นที่ เน้นย้ำให้ตรวจสอบข้อมูลครัวเรือนว่าอยู่ในการสำรวจของเทศบาลหรือไม่ เพื่อป้องกันรายชื่อที่่อาจตกหล่น” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยให้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว รัฐบาลก็จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจทันที โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี รับทราบมาตรการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เป็นโครงการนำร่อง กระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ หลังจากผู้ประกอบการเริ่มทยอยฟื้นฟูกิจการหลังน้ำท่วมใหญ่ คาดดีเดย์วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ยังเตรียมปรับเงื่อนไขมาตรการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบตรงจุดมากที่สุด หากเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ประชาชน ก็จะพิจารณาขยายหรือต่อยอดโครงการต่อไป


ล่าสุด จ.เชียงใหม่ ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงไฮซีซั่น นายจิรายุ กล่าวว่า วันนี้ (14 ต.ค.67) ทุกภาคส่วนของ จ.เชียงใหม่ ร่วมปฏิบัติการตามแผนฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเมืองทั่วทุกพื้นที่ โดยนายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ปล่อยขบวนคาราวานรถน้ำ 200 คัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จาก อบจ.เชียงใหม่ อปท. ตำรวจ ทหารบก และภาคีเครือข่าย รวมกว่า 700 คน ร่วมกันเก็บขยะที่ตกค้าง ทำความสะอาด ฉีดล้างดินโคลนตามท้องถนนสายหลัก ตรอก ซอยต่างๆ ป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย ในพื้นที่ถนนเจริญเมือง ตั้งแต่แยกหนองประทีป จนถึงสะพานนวรัฐ ให้แล้วเสร็จ ก่อนดำเนินการในเส้นทางอื่นต่อไป เพื่อเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สะอาด สวยงาม พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”