9 ต.ค. – สืบนครบาล รวบตำนานไฮโซเก๊ “เสี่ยมีน” ผันตัวมาเป็นผู้ซื้อขายประมูลทะเบียนเลขสวย
ตำรวจชุดไล่ล่าจับกุม “มีน ไฮโซเก๊” หรือ นายกฤติเดช อายุ 27 ปี ขณะเดินกำลังหลบหนีข้ามจังหวัดบริเวณสถานีรถไฟกลางบางซื่อ (สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์) ในข้อหา “ฉ้อโกงโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” พื้นที่ สน.บางพลัด
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่อง “มีน ไฮโซเก๊” ตำนานมีรถ 100 ล้าน เคยใช้ใบหน้าหล่อเหลาเป็นอาวุธหลอกลวงเหล่าบรรดาหญิงสาว หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาลทำการจับกุมเมื่อปลายปี พ.ศ.2566 ครั้งนี้ “ผู้พ้นโทษป้ายแดง” รายนี้ยังไม่หลาบจำ ล่าสุด เสี่ยมีนยังเปลี่ยนรูปแบบกระบวนการหลอกลวงมาเล่นกับศาสตร์ของตัวเลข และความเชื่อที่คนให้ความสำคัญกับความหมายของตัวเลข โดยผันตัวมาเป็นผู้ซื้อผู้ขายประมูลทะเบียนเลขสวย เลขมงคล ผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยจะนำทะเบียนเลขสวย มงคล และมีความหมายดี มาประกาศขาย พูดคุยจนผู้ซื้อไว้วางใจ และจะทำการหลอกลวงเอาทรัพย์จากการที่ให้โอนในส่วนของยอดมัดจำ เมื่อเหยื่อโอนเงินก็จะหายตัวเข้ากลีบเมฆ วีรกรรมไม่เพียงเท่านี้ยังมีการ “ยืม” รถสาวคนสนิทเพื่อแอบเอาไปจำนำในตลาดมืด
พบประวัติเสี่ยมีนเคยก่อเหตุมาแล้วกว่า 9 คดี (และอีกไม่ต่ำกว่า 10 คดี ผู้เสียหายไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี)
- วันที่ 11 ก.ค. 58 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พื้นที่ สน.ดุสิต
- วันที่ 31 มี.ค. 59 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พื้นที่ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
- วันที่ 23 ก.ค. 59 ก่อเหตุ ฉ้อโกง พื้นที่ สน.มีนบุรี
- วันที่ 26 เม.ย. 60 ก่อเหตุ ฉ้อโกง พื้นที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์
- วันที่ 19 มี.ค. 64 ก่อเหตุ ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมฯ พื้นที่ สภ.เมืองเชียงราย
- วันที่ 11 พ.ย. 64 ก่อเหตุ ฉ้อโกง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมฯ พื้นที่ สน.สายไหม
- วันที่ 31 ธ.ค. 64 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ พื้นที่ สน.มีนบุรี
- วันที่ 6 เม.ย. 65 ก่อเหตุ ฉ้อโกง พื้นที่ สน.ลุมพินี
- วันที่ 7 ม.ค. 66 ก่อเหตุ ลักทรัพย์ใน พื้นที่ สน.มีนบุรี
พฤติการณ์ของ “เสี่ยมีน” จะสร้างโปรไฟล์ในโลกโซเชียลเป็น “ไฮโซ” ทำทีถ่ายรูปกับรถหรูซึ่งเป็นรถผู้ใดก็ไม่ทราบ หรือโชว์สลิปการโอนเงินเยอะๆ หรืออวดนาฬิกาเรือนแพงเพื่ออวดความหล่อรวย และอ้างเป็นเจ้าของธุรกิจเต็นท์รถ เจ้าของสำนักกฎหมาย และอีกมากมาย จากนั้นก็ไล่ทักหาเหล่าบรรดาไฮโซดาราคนดังที่มีตัวตนอยู่จริงๆ เพื่อมาเสริมบารมีให้กับโปรไฟล์ของตัวเอง ก่อนจะหยอดคำหวานบรรดา “สาวสวย” และ “สาวสายมู” ในโลกโซเชียล จนเหยื่อหลงเชื่อและยอมนัดเจอ ก่อนจะถูกลวงทำซื้อขายของออนไลน์ แต่โดยส่วนใหญ่เหยื่อจะถูก “ยืมเงิน” และถูกหลอกลวงเช่นการยืมรถและแอบนำไปจำนำในตลาดมืดก่อนจะหายเข้ากลีบเมฆ แต่เหยื่อบางรายที่มีฐานะยากจน ก็จะโทรมาลวงให้โอนเงิน “21 บาท” อ้างว่าเป็นค่าทำบุญ ซึ่งเสี่ยมีนตระเวนก่อเหตุในลักษณะนี้เป็นเวลาหลายปี มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 30 คน และมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท
ในชั้นจับกุม เสี่ยมีน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่า “ตนเองจบชั้น ม.6 ชีวิตของตนลำบากพ่อแม่แยกทางกัน เกิดความหลงผิด ลองผิดลองถูกเอง ตนเป็นหนุ่มหน้าตาดี ชอบถ่ายรูปกับรถหรู เป็นหนุ่มโปรไฟล์ดีในโลกออนไลน์ เลยมีผู้หญิงเข้ามาเยอะ ตนจึงมีแฟนหลายคนคบซ้อนพร้อมกัน 4-5 คน เมื่อมีผู้หญิงเข้ามาก็จะทำทีคบหากันเพื่อหลอกยืมเงิน โดยเคยยืมสูงสุดหลักล้านเพื่อไปเล่นพนันออนไลน์จนหมด ทำให้ชีวิตเกิดปัญหา เครียดไม่มีเงิน ส่วนเรื่องที่โพสต์ขายทะเบียน ตนใช้เงินที่ผู้เสียหายโอนมาให้ไปหมดแล้วจึงไม่มีเงินจะคืน ทั้งนี้ ตำรวจนำตัวเสี่ยมีนส่งพนักงานสอบสวน สน.บางพลัด เพื่อดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย