ประสาน กต. ออกหมายแดง เร่งติดตาม “หมอบุญ”

หมายจับหมอบุญ

23 พ.ย.- ตำรวจแถลงหลังศาลออกหมายจับ “หมอบุญ” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” จับแล้ว 6 คน พบหลอกลงทุน 5 โครงการที่ไม่มีอยู่จริง เร่งติดตาม “หมอบุญ” หนีไปจีน ประสาน กต. ออกหมายแดงแล้ว


กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวความคืบหน้าทลายเครือข่ายหมอบุญ เจ้าของโรงพยาบาลดัง “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน”

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเริ่มต้นช่วงเดือนธันวาคม 66 มีผู้เสียหายแจ้ง ที่สน.ห้วยขวาง 1 คดี จากนั้น ปี 67 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา มีผู้เสียหายมาแจ้งความอีกหลายสิบคดี และพบว่าคดีเริ่มซับซ้อน มีผู้มาแจ้งความ รวม 520 คดี


เบื้องต้นพบส่วนใหญ่ เป็นความผิดทาง พ.ร.บ.เช็ค โดยพบว่าพฤติการณ์ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็น นักธุรกิจ แวดวงทางการแพทย์ หลงเชื่อ หมอบุญและ โบรกเกอร์ จะอ้างระดมทุนธุรกิจสร้างโครงการที่เกี่ยวกับธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการ ได้แก่

  1. โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบลงทุน 4 พันล้านบาท
  2. โครงการ wellness Center ย่านพระราม3 มูลค่าลงทุน 4-5 พันล้านบาท
  3. สร้างโรงพยาบาล ใน สปป ลาว 3 แห่ง
  4. โครงการร่วมลงทุนกับโรงพยาบาล ในเวียดนาม งบลงทุน 4-5 พันล้านบาท
  5. โครงการธุรกิจด้านไอที งบ 100 ล้านบาท

โดยกล่าวอ้างว่า เมื่อมีการลงทุนแล้ว ผู้ที่ร่วมลงทุนในปี 66 จะได้ผลกำไรประมาณ 700 ล้านบาท ปี 67 จะได้กำไร เป็น 1,000 ล้านบาท เมื่อช่วง เดือนกุมภาพันธ์ ปี 67 หมอบุญได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองออกสื่อ ลงเว็บประชาสัมพันธ์ แจ้งการระดมทุน บอกว่าตัวเองมีธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ และอ้างว่าผลกำไรของการลงทุนดังกล่าว จะได้ค่าตอบแทนที่มากกว่าสถาบันการเงิน คนระดมทุนหลงเชื่อว่าจะได้กำไรตามที่กล่าวอ้าง

โดยกลุ่มผู้ต้องหามีการชักชวนผู้ลงทุนจำนวนมากในรูปแบบทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้า ในชื่อนายแพทย์บุญ โดยมีนางจารุวรรณ และนางณวรา บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ค้ำประกันตามสัญญา ในช่วงแรกให้ดอกเบี้ยกับผู้ที่เข้าร่วมลงทุนตามสัญญา แต่ต่อมาไม่ได้ชำระดอกเบี้ยตามกำหนด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ให้ก็ไม่สามารถนำไปขึ้นเงินกับธนาคารได้ จึงเป็นเหตุให้ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี


พนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำหลักฐานขอศาลอาญาออกมาจับ นายแพทย์บุญ อายุ 86 ปี พร้อมภรรยา บุตรสาว และพวกรวม 9 คน เมื่อวันที่ วันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หลังร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ โดยมีผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เอาผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 กรณีที่ไม่สามารถนำเช็คเงินสดของนายแพทย์บุญ ไปขึ้นเงินกับธนาคารได้ มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ

โดยศาลอาญาได้ออกหมายจับนายแพทย์บุญ 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และข้อหาเช็คเด้ง หรือออกเช็คแล้วขึ้นกับธนาคารไม่ได้

ในการแถลงข่าว ตำรวจได้นำโมเดลที่ยึดได้ เป็นโครงการที่อ้างหลอกลงทุนและไม่มีอยู่จริง สัญญากู้ยืมเงิน ฉโนดที่ดิน 21 แปลง อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าได้มาตั้งแต่ปี 66 ที่กระทำผิดหรือไม่ และจากการตรวจสอบ รถยนต์ของหมอบุญที่มี 19 คัน หายไปทั้งหมด ตำรวจจะตรวจสอบว่าเอาไปซุกซ่อนที่ใด

ภายหลังออกหมายจับ ตำรวจกองบัญชาการ ตำรวจนครบาล และกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เอาไว้ได้แล้ว จำนวน 6 คน ยังเหลืออีก 3 คน คือ นายแพทย์บุญ ภรรยาและบุตรสาว ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายแพทย์บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 กันยายน 2567 ไปยังประเทศจีน ส่วนภรรยาและบุตรสาว อยู่ระหว่างตรวจสอบ

ล่าสุดกรณีหมอบุญ ที่เดินทางไปต่างประเทศ ตำรวจได้ประสานกับกระทรวงการประเทศ ออกหมายแดง (red notice) ในการติดตามตัว ซึ่งมีข้อมูลว่าเดินทางจากฮ่องกงไปจีน

นอกจากนี้ ในการสืบสวนยังพบว่า มีผู้ถูกหลอกลงทุน เป็นจำนวนเงินตั้งแต่ 50-600 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ บุคลากรทางการแพทย์ ที่หลงเชื่อความน่าเชื่อถือในตัวหมอบุญ และโบรกเกอร์ โดยการเลือกเหยื่อ ทั้งสองส่วน มีการพูดคุยแนะนำกันว่าจะหลอกเหยื่อ ที่มีเงินจำนวนมาก

ขณะนี้มีผู้เสียหาย 247 คน มูลค่าความเสียหาย 7,500 ล้านบาท เริ่มมีการแจ้งความ ปี 66 – พฤษภาคม ปี 67 เริ่มมีผู้เสียหาย เพราะไปขึ้นเงินเช็คไม่ได้ เช็คเด้ง ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางเงิน ว่าเมื่อได้เงินลงทุนแล้ว เอาไปที่ไหน หากใครได้รับเงินตำรวจ อยู่ระหว่างตามหาเงิน 7,500 ล้านบาท ว่ามีการเอาไปซุกซ่อนที่ไหน ซึ่งภรรยา-ลูก ที่มีความผิด เพราะเป็นตัวการร่วม ในการ เซ็นสลักหลังเช็ค เป็นการค้ำประกัน ลงรายชื่อสัญญาเงินกู้ด้วย พฤติการณ์ชัดเจนว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำ หากมีผู้เสียหายที่ถูกฉ้อโกงเพิ่มเติมสามารถมาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

นอกจากนายแพทย์บุญแล้ว ศาลยังได้ออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดอีก 8 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ได้แก่

  • นางสาวจิดาภา อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัวนายแพทย์บุญ
  • นางสาวศิวิมล อายุ 38 ปี ผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน
  • นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ
  • นางสาวนลิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ
  • นางอัจจิมา อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน
  • นายภาคย์ อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ ผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน
  • นางภัทรานิษฐ์ อายุ 55 ปี เป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน ผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน
  • นายธนภูมิ อายุ 36 ปี ตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก

สงขลา 12 พ.ค.- ตำรวจไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก คดีทำร้ายร่างกาย “ด.ต.” คาหน่วยเลือกตั้ง พร้อมนำกำลังค้น 7 จุดหาหลักฐานเพิ่มเติม ความคืบหน้าเหตุการณ์นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา ลูกชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 จ.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ หรือโกถึก ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนนกับภรรยา ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย 1. นายสิรดนัย หรือสจ.กอล์ฟ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่1 ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน2. นายพงษ์เทพ หรือหนึ่งฟรีด้อม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ในฐานะรับคำสั่งจากนายสิรดนัย แล้วสั่งการให้ นายหนุ่มเสกกับพวกรวม […]

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]