เยรูซาเลม 3 ต.ค.- นับจากสมาชิกกลุ่มฮามาสในกาซาข้ามพรมแดนเข้ามาโจมตีอิสราเอลโดยไม่ทันตั้งตัวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 มาจนถึงขณะนี้สถานการณ์ความขัดแย้งได้ขยายวงกว้าง คู่ขัดแย้งกับอิสราเอลมีจำนวนเพิ่มขึ้น และยังไม่มีวี่แววว่าความขัดแย้งจะคลี่คลายลง เว็บไซต์สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานวิชาการของสหรัฐที่เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสหรัฐ ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2464 ได้สำรวจความเปลี่ยนแปลงใน 4 ด้านสำคัญที่เกิดขึ้นตลอด 1 ปีที่ผ่านมาดังนี้ ปีแห่งการคิดทบทวนนโยบายด้านกลาโหมของอิสราเอล ก่อนวันที่ 7 ตุลาคม 2566 การเมืองในอิสราเอลเต็มไปด้วยความร้อนแรงและการประท้วงเรื่องการปฏิรูประบบตุลาการ คนในประเทศแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนให้ปฏิรูปเพื่อจำกัดอำนาจที่ล้นเหลือของฝ่ายตุลาการ ขณะที่อีกฝ่ายคัดค้านเพราะมองว่าเป็นจุดจบของระบอบประชาธิปไตย ความขัดแย้งนี้ถูกลืมไปทันทีเมื่อกลุ่มฮามาสก่อเหตุสะเทือนขวัญคนทั้งอิสราเอลและทั้งโลก ชาวอิสราเอลหันมาร่วมใจกันสนับสนุนกองกำลังป้องกันอิสราเอลให้ปราบฮามาส คนหนุ่มสาวที่เป็นทหารสำรองกลับเข้ากรมกองเพื่อรับใช้ชาติอย่างพร้อมเพรียง ลบคำปรามาสของคนรุ่นก่อนที่เคยคิดว่าคนรุ่นหลังอาจจะไม่เดินตามรอยบรรพบุรุษที่นำพาประเทศฝ่าสงครามมาแล้วในปี 2491, 2499, 2510 และ 2516 นับตั้งแต่รัฐอิสราเอลก่อตั้งขึ้นในปี 2491 อย่างไรก็ดี การชุมนุมประท้วงตามท้องถนนในอิสราเอลกลับมาอีกครั้ง แต่เป็นการประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลหาทางช่วยชีวิตตัวประกันที่ถูกฮามาสลักพาตัวไปมากกว่า 250 คน แม้มีการปล่อยตัวประกันแล้วบางส่วน แต่เมื่อเวลายิ่งผ่านไป ชะตากรรมของตัวประกันที่ยังไม่ได้กลับบ้านก็ยิ่งมืดมน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้ไม่เป็นที่นิยมของประชาชนอยู่แล้ว เพราะมีประเด็นในอดีตหลายเรื่องถูกตำหนิอย่างหนักว่าไม่พยายามช่วยตัวประกัน ครอบครัวตัวประกันจัดการชุมนุมทุกสัปดาห์เพื่อกดดันรัฐบาล ขณะเดียวกันผู้นำทางการเมือง […]