ค็อกซ์บาซาร์ 8 ก.ย. – สหประชาชาติเปิดเผยวานนี้ว่า ประชาชนกว่า 250,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญา อพยพหนีภัยจากเมียนมาไปยังบังกลาเทศ นอกจากนั้น ยังพบศพผู้อพยพถูกพัดเข้าสู่ริมตลิ่งของแม่น้ำที่กั้นเขตแดนระหว่างเมียนมาร์และบังกลาเทศขณะที่เรือของผู้อพยพล่มในระหว่างพยายามเดินทางข้ามแม่น้ำ
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา พลเรือน 164,000 คน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นชาวโรฮิงญา เดินทางข้ามพรมแดนจากเมียนมาไปบังกลาเทศ ทำให้ค่ายผู้อพยพที่นั่น ซึ่งมีความแออัดอยู่แล้ว มีผู้อพยพหนาแน่นเพิ่มขึ้นอีก ผู้อพยพหลายคนเสียชีวิตในระหว่างที่พยายามหลบหนีออกจากรัฐยะไข่ในเมียนมา
งผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนระบุว่า หมู่บ้านทั้งหมดถูกเผาทำลาย นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาเปิดฉากโจมตีพร้อม ๆ กันหลายจุดเม่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา และทำให้กองทัพเมียนมาส่งทหารเข้ามากวาดล้าง
ตำรวจบังกลาเทศกล่าวว่า พบผู้เสียชีวิต 17 คน ซึ่งหลายคนเป็นเด็ก เสียชีวิตจากการจมน้ำ เนื่องจากเรือที่ผู้อพยพชาวโรฮิงญาเต็มลำเรือใช้เดินทางอพยพหนีภัยล่มลงที่บริเวณปากแม่น้ำนาฟ เจ้าหน้าที่บังกลาเทศกล่าวว่า ชาวโรฮิงญาพยายามจะข้ามแม่น้ำโดยใช้เรือประมงขนาดเล็ก ซึ่งถือว่าอันตรายเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากเรือบรรทุกคนเกินอัตรา มีเรืออย่างน้อย 5 ลำที่ล่มและทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 คน.-สำนักข่าวไทย