บูรณาการรักษาความปลอดภัยเส้นทางรถไฟ

ยะลา 21 ก.ย. – หน่วยงานความมั่นคง ประสานความร่วมมือชุมชน-ชาวบ้าน-โรงเรียน ช่วยดูแลระงับเหตุริมทางรถไฟสายใต้ ระบุ การยกเลิกตำรวจรถไฟไม่มีนัยสำคัญต่อการก่อเหตุ เนื่องจากภารกิจเป็นคนละส่วนกัน


พล.ท.ธัชพล เปี่ยมวุฒิ ผอ.ศปป.5 กอ.รมน. พร้อมคณะนายทหาร เดินทางตรวจเยี่ยม การปฏิบัติการของร้อย.อส.รถไฟ ที่สถานีรถไฟจังหวัดยะลา โดยมีนายหมวดโท ณรงค์ นุทผล ผู้บังคับกองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ได้บรรยายถึงการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟของหน่วยต่อสื่อมวลชนว่า ปัจจุบัน กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 มีหน้าที่รับผิดชอบรักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟจำนวน 18 ขบวนต่อวัน เป็นระยะทาง 270 กิโลเมตร ตั้งแต่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ไปจนถึงอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส


โดยมีการจัดวางกำลัง แบ่งเป็น 3 หมวดในการปฏิบัติ ได้แก่ หมวดปฏิบัติการที่ 1 อยู่ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ รับผิดชอบรถไฟ 10 ขบวนต่อวัน ทั้งเที่ยวไปและกลับ ประกอบด้วย ขบวนรถเร็วกรุงเทพฯ – สุไหงโก-ลก ขบวนรถพิเศษรับส่งสินค้า กรุงเทพฯ – สุไหงโก-ลก ขบวนรถท้องถิ่น พัทลุง – สุไหงโก-ลก ขบวนรถด่วนพิเศษกรุงเทพฯ – สุไหงโก-ลก ขบวนรถเร็ว กรุงเทพฯ – ยะลา ขณะที่ หมวดปฏิบัติการที่ 2 ยะลา ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟยะลา รับผิดชอบ ขบวนรถไฟ 6 ขบวน ทั้งเที่ยวไปกลับ ประกอบด้วย ขบวนท้องถิ่น ยะลา – สุไหงโก-ลก ขบวนท้องถิ่น นครศรีธรรมราช-ยะลา และขบวนท้องถิ่น นครศรีธรรมราช – สุไหงโก-ลก หมวดปฏิบัติการที่ 3 สุไหงโก-ลก อยู่ที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก รับผิดชอบขบวนรถไฟ 2 ขบวนต่อวันทั้งเที่ยวไปและกลับ ได้แก่ ขบวนท้องถิ่น สุราษฎร์ธานี – สุไหงโก-ลก

ซึ่งแต่ละหน่วยจะจัดกำลังขึ้นรักษาความปลอดภัยขบวนรถ ขบวนละสิบนาย ซึ่งในปัจจุบัน เส้นทางที่หน่วยดูแล มีจุดที่เกิดเหตุซ้ำซากอยู่ 20 จุด ทั้งการก่อเหตุวางระเบิด และซุ่มยิงคนขับขบวนรถไฟ ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ในการวางแนวทางป้องกันและแก้ไข นายประชานิวัฒน์ บัวศรี หัวหน้างาน ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ได้มีการจัดกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์ในโอกาสต่าง ๆ โดยเฉพาะตามชุมชนมัสยิด ตลอดจนโรงเรียนต่างบริเวณริมทางรถไฟ เพื่อสร้างสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ สร้างการมีส่วนร่วมให้ชุมชนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตรวจตราจุดเสี่ยงต่าง ๆ เมื่อพบพิรุธ จะได้สามารถช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ป้องกันและระงับเหตุได้ อาทิ โครงการพานักเรียนตลอดแนวทางรถไฟ ในจังหวัดต่างๆ ไปทัศนศึกษา การจัดกิจกรรมของมัสยิด หรือล่าสุดที่กำลังจะดำเนินการ ได้แต่โครงการจัดที่ 2 ข้างทางรถไฟ ให้เป็นพื้นที่ปลูกหญ้าเลี้ยงวัวสำหรับชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านร่วมเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ได้ พร้อมทั้งมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ป้องกันเหตุด้วย เช่น การของบประมาณสนับสนุนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่จุดเสี่ยง รวมถึงมีโครงการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยบนขบวนรถไฟ แต่ด้วยอายุการใช้งานของขบวนรถไฟซึ่งเก่าแล้ว ทำให้อาจไม่สามารถรองรับเทคโนโลยีบางอย่างได้

ทั้งนี้พ.อ.อนุชา โนนคู่เขตโขง รองเลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวเสริมด้วยว่า ในกรณีที่มีข่าวสารในพื้นที่ว่าอาจมีมูลเหตุการก่อความไม่สงบขึ้น จะมีการยกระดับการรักษาความปลอดภัยในจุดเสี่ยงต่าง ๆ ขึ้น เช่น วางกำลังรักษาความปลอดภัยจำนวนมากยิ่งขึ้นเพื่อเฝ้าระวังเหตุ เป็นต้น


ทั้งนี้ จากข้อมูลของกองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 ได้สรุปพื้นที่เพ่งเล็ง พื้นที่เสี่ยง พื้นที่ล่อแหลม และพื้นที่เคยเกิดเหตุซ้ำ ในแต่ละจังหวัด ดังนี้ จังหวัดนราธิวาส พบที่อำเภอระแงะ มากสุด 5 ครั้ง เป็นเหตุลอบซุ่มยิง 3 ครั้งวางระเบิด 2 ครั้ง ส่วนอำเภอเจาะไอร้อง พบ 3 ครั้ง เป็นเหตุวิสามัญคนร้าย 1 ครั้ง และลอบซุ่มยิง 2 ครั้ง ขณะที่อำเภอรือเสาะ เกิด 6 ครั้งประกอบด้วย เหตุลอบซุ่มยิง 3 ครั้ง ระหว่างระเบิด 3 ครั้ง ด้านจังหวัดยะลา พบเฉพาะที่อำเภอรามัน จำนวน 4 ครั้ง เป็นเหตุลอบซุ่มยิง 2 ครั้งและวางระเบิด 2 ครั้ง ส่วนจังหวัดปัตตานี พบที่อำเภอโคกโพธิ์ 2 ครั้ง โดยเป็นเหตุลอบวางระเบิดทั้ง 2 ครั้ง ทั้งนี้ภารกิจของหน่วยฯ นอกจากเฝ้าระวังเหตุ ยังมีภารกิจด้านอื่น เช่น การเฝ้าตรวจตราสกัดกั้นยาเสพติด ซึ่งมีสถิติ เคยจับได้ อาทิ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2561 จับกุมยาบ้าได้ 200,000 เม็ด บนขบวนรถกรุงเทพฯ – ยะลา นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าระวังกรณีการเดินทางเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย หรือพำนักเกินเป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ทุกหน่วยงานที่บูรณาการการทำงานร่วมกัน ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกันว่าการยกเลิกตำรวจรถไฟ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในทางสถิติ ไม่ได้มีนัยหรือความสำคัญ ต่อเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นต่อขบวนรถไฟ เนื่องจากภารกิจของตำรวจรถไฟ ส่วนใหญ่อยู่ในขบวนรถ ขณะที่เหตุระเบิด มักเกิดกับการลอบวางระเบิดที่รางรถไฟ หรือการซุ่มยิงจากข้างทางมากกว่า -313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”