fbpx

โรงพยาบาลรับผิดปมสลับตัวเด็กทารก “ไทย-เมียนมา”

สมุทรสาคร 16 ก.ย. – โรงพยาบาลแจงปมสลับเด็กทารกไทย-เมียนมา คาดเกิดจากช่วงทำหัตถการรักษาอาการป่วย ต้องตัดสายรัดข้อมือ พร้อมเยียวยา 2 ครอบครัวๆ ละ 100,000 บาท และให้สิทธิรักษาทุกโรคทุกกรณีไปจนกว่าเด็กทั้งสองจะอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์


กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโซเชียล เมื่อมีพ่อคนหนึ่งเล่าเหตุการณ์ว่าลูกสาวของตนเองเกิดวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา เด็กหายใจเร็วจึงต้องแยกห้องกับแม่ แม่นอนห้องพักฟื้น ลูกนอนห้องอภิบาล โรงพยาบาลให้เยี่ยมได้ 18.30-20.00 น. ตนเองกับแฟนไปเยี่ยมตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม แต่พยาบาลห้ามถ่ายรูป แต่ตนเองแอบถ่ายรูปลูกไว้ทุกวัน ส่งให้แม่และญาติๆ พอวันที่ 17 สิงหาคม ไปเยี่ยมลูกอีกครั้ง แต่กลับพบว่าหน้าลูกเปลี่ยนไป จากผมยาวก็สั้น จากมีคิ้วก็หายไป ป้ายชื่อที่ข้อมือซ้ายกับขาขวาก็หาย รวมทั้งเสื้อผ้าและผ้าขนหนู ก็ไม่ใช่ของลูก
พอสอบถามพยาบาลได้คำตอบว่า “ป้ายอาจหายตอนอาบน้ำ ส่วนเสื้อผ้าในกล่องอาจจะสลับกันได้”

วันที่ไปรับลูกกลับบ้าน พ่อคนดังกล่าวเผยว่าสับสนในตัวเองมาก เพราะมองอย่างไรก็ไม่ใช่หน้าลูกของตนเองที่แอบถ่ายรูปไว้ จนเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว โทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาล เพราะมั่นใจว่าต้องมีการสลับเด็กแน่ๆ แต่พยาบาลอธิบายว่า “เด็กหน้าเปลี่ยนทุกวัน” แต่สุดท้ายยังไม่สบายใจ จึงชวนภรรยาไปตรวจ DNA ผลปรากฏว่าเด็กมีเลือดกรุ๊ป B ทั้งที่ตนเองกรุ๊ป AB และภรรยากรุ๊ป A สุดท้ายโรงพยาบาลตามหาลูกที่แท้จริงให้จนเจอ พบกับครอบครัวชาวเมียนมา มีการเจาะเลือดของครอบครัวดังกล่าว พบว่าพ่อแม่ชาวเมียนมามีเลือดกรุ๊ป B แต่เด็กที่คิดว่าเป็นลูกของครอบครัวนี้มีเลือดกรุ๊ป AB


วันนี้ (16 ก.ย.) นายแพทย์ สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นายแพทย์ ธรรมวิทย์ เกื้อกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระทุ่มแบน รองผู้อำนวยการ และหัวหน้าฝ่ายการพยาบาล ชี้แจงเหตุสลับตัวเด็กทารก ว่าเป็นเหตุผิดพลาดที่เกิดขึ้นจริงจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลกระทุ่มแบน ยอมรับผิดและขอแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการสลับตัวนั้น พอสรุปได้ว่าเด็กทั้ง 2 คน มีอาการติดเชื้อและจำเป็นต้องให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดกับให้น้ำเกลือ ดังนั้น ช่วงที่มีการดูแลด้วยหัตถการ ทั้งการให้น้ำเกลือและการอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเด็กอ่อน จึงต้องตัดสายรัดข้อมือออก จนนำมาสู่ความผิดพลาดครั้งนี้

ต่อมาทางโรงพยาบาลเจรจากับ 2 ครอบครัว เรื่องการให้บริการทางด้านการแพทย์ โดยให้สิทธิในการรักษาทุกโรคทุกกรณีไปจนกว่าเด็กทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะ หรืออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ และการมอบเงินเยียวยาจิตใจ ทางโรงพยาบาลมอบให้แก่ทั้ง 2 ครอบครัว ครอบครัวละ 100,000 บาท


ขณะที่พ่อที่ออกมาร้องเรียนซึ่งเป็นคนไทย เปิดใจหลังการเจรจาข้อยุติวันนี้ว่า ตนไม่ได้รู้สึกดีใจอะไร แต่รู้สึกพอใจที่ข้อหารือจากการพูดคุยกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นไปตามที่ร้องขอไว้ ซึ่งทางโรงพยาบาลยินดีที่จะดูแลเด็กๆ ทั้งสองคนอย่างต่อเนื่อง และการเยียวยาจิตใจทั้งสองครอบครัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด