กกร.เผยน้ำท่วมกดดันเศรษฐกิจไทยเพิ่ม เดือนเดียวเสียหายกว่า 6-8 พันล้านบาท

กรุงเทพฯ 4 ก.ย.- กกร.เผยน้ำท่วมกดดันเศรษฐกิจไทยเพิ่ม เดือนเดียวเสียหายกว่า 6-8 พันล้านบาท พร้อมสนับสนุนการยกระดับมาตรการจัดการบัญชีม้าให้เข้มข้นขึ้น เล็งขยายผลไปยังบัญชีนิติบุคคลที่เชื่อมโยงบัญชีม้า


นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดยมีนายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโส สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ร่วมในการแถลงข่าว

นายผยง กล่าวว่า อุปสงค์ภายในประเทศของไทยยังอ่อนแรงสะท้อนจากการลงทุน แม้ว่ารัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณลงทุน ทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเติบโตเฉลี่ยได้กว่า 20% ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม เศรษฐกิจในไตรมาสที่สองที่ผ่านมายังชะลอตัว โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชนหดตัวมากถึง 6.8% เหตุสำคัญจากกลุ่มยานยนต์ที่ยอดขายในประเทศลดลงถึง 24% โดยการลงทุนในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มชะลอสะท้อนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง


ภาวะอุทกภัยที่เกิดขึ้นถือเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม โดยคาดว่ามูลค่าความเสียหาย สำหรับช่วงเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนจะอยู่ที่ราว 6-8 พันล้านบาท หรือ 0.03-0.04% ของจีดีพี ซึ่งภาคเกษตรได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนในระยะถัดไปต้องติดตามพายุที่อาจจะเข้าได้ช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ถือเป็นความเสี่ยงต่อสถานการณ์น้ำท่วมที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม

ที่ประชุม กกร. จึงคงกรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2567 ไว้ที่ 2.2 – 2.7 อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ กกร.ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ส่งออกทั้งปีเป็นโต 1.5-2.5% จากประมาณการเดิมที่ 0.8-1.5% หลังการส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคมโตถึง 15.2% จากแรงหนุนของวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลก แต่การเติบโตดังกล่าว ยังกระจุกตัวอยู่เฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ได้เป็นการเติบโตในวงกว้างส่งออก

และจากความกังวลต่อสถานการณ์น้ำและอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน กกร.จึงมีมติให้จัดตั้งคณะทำงานย่อย จัดทำข้อเสนอด้านการบริหารจัดการน้ำ เพื่อเสนอต่อภาครัฐ โดยเน้นการวางแผนระยะยาวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำรอยเหมือนปี 2554 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแหล่งน้ำและเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำทั่วประเทศ เพื่อให้การบริหารน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม และเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำ นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้มีการเชื่อมโยงระหว่างความต้องการน้ำ (Demand) และการจัดหาน้ำ (Supply) เพื่อให้สามารถจัดการน้ำได้อย่างเหมาะสม แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันจะไม่รุนแรงเท่าปี 2554 แต่คาดว่าในปี 2567 จะยังมีพายุพัดผ่านประเทศไทยอีก 2 ลูก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2567 จึงต้องมีการเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดอ่างทองและพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา นอกจากนี้ กกร. เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อมูลการเคลื่อนที่ของมวลน้ำในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงที และมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในการฟื้นฟูธุรกิจ เช่น มาตรการทางภาษี มาตรการบรรเทาต้นทุนการผลิต และมาตรการทางการเงิน เป็นต้น


นอกจากนี้ กกร.สนับสนุนแนวทางการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงินของภาคธนาคาร ที่ได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้าให้เข้มข้นขึ้น โดยจัดกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงเป็นบัญชีม้าดำ ม้าเทา และม้าน้ำตาล โดยมีการแชร์ข้อมูลระหว่างกันของภาคธนาคาร พร้อมเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และฐานข้อมูล Central Fraud Registry (CFR) เพื่อจัดการบัญชีม้าเดิมและป้องกันการเปิดบัญชีม้าใหม่ โดยหากบุคคลใดถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจะถูกระงับบัญชีทั้งหมด และไม่ให้เปิดบัญชีใหม่ นอกจากนี้ยังจะขยายผลไปยังบัญชีนิติบุคคลซึ่งมีข้อมูลว่า บัญชีที่ถูกเปิดโดยนิติบุคคล มีรายชื่อกรรมการเชื่อมโยงกับบัญชีม้าจำนวนมาก พร้อมกันนี้ สมาคมธนาคารไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ภาคธนาคาร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ไปจนถึงผู้ให้บริการคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อให้สามารถจัดการบัญชีม้าอย่างมีประสิทธิภาพ -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ