“จุลพันธ์” ยันใช้งบฯ 68 อย่างคุ้มค่า สอดคล้องนโยบายรัฐบาล

รัฐสภา 3 ก.ย.-“จุลพันธ์” ยันให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์ที่ประชาชนจะได้รับ ใช้งบฯ 68 อย่างคุ้มค่า สอดคล้องนโยบายรัฐบาล สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน สนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจชาติ

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นประธานประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี พ.ศ.2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ปรับลด 7,824,398,500 บาท โดยเป็นการพิจารณาเรียงรายมาตรา


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญฯ สรุปสาระสำคัญ ว่า กมธ.ฯได้เริ่มพิจารณาตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.จนแล้วเสร็จวันที่ 28 ส.ค.โดยได้ร่วมกันพิจารณารายละเอียดงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ รวม 2,987 หน่วยรับงบประมาณ ซึ่งกมธ.ฯ ได้ให้ความสําคัญกับผลสัมฤทธิ์ที่ประชาชนจะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณที่มีความสอดคล้องกับ นโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อให้การดําเนินงานตามภารกิจของหน่วยรับงบประมาณสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคํานึงถึงความจําเป็น ความต้องการในพื้นที่ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ และผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการ รวมทั้งให้ความสําคัญกับการขับเคลื่อนหน่วยรับงบประมาณภายใต้หลักธรรมาภิบาล สุจริต โปร่งใส เป็นธรรม

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า มีข้อเสนอในภาพรวมที่สําคัญเพื่อให้รัฐบาลดําเนินการเกี่ยวกับการออกมาตรการควบคุมระดับหนี้สาธารณะให้ลดลง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ การกําหนดนิยามของรายจ่ายลงทุน ให้มีความชัดเจน หลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสอดคล้องกับเงินสะสม เพื่อให้การประมาณการการจัดเก็บรายได้สะท้อนกับความเป็นจริง หน่วยรับงบประมาณควรมีการบูรณาการข้อมูลร่วมกัน และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลของทุกหน่วยรับงบประมาณ โดยสามารถแสดงข้อมูลในมิติด้านรายรับรายจ่าย ตลอดจนภาระหนี้ ซึ่งจะช่วยในการวิเคราะห์ผลการดําเนินงานในภาพรวม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในการดําเนินงานของกมธ.ฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกมธ.ฯ จํานวน 9 คณะ และ กมธ.ฯได้ปรับลดงบประมาณ จํานวน 7,824,398,500 บาท โดยได้พิจารณาจากความสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งเป้าหมายและผลการดําเนินงานจริง ความคุ้มค่า ความพร้อมในการดําเนินงาน และศักยภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ ตลอดจนให้ความสําคัญกับเงินนอกงบประมาณหรือรายได้ที่จัดเก็บเองของหน่วยรับงบประมาณ เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนการเพิ่มงบประมาณนั้น กมธ.ฯ ได้พิจารณาตามความเหมาะสม จําเป็น ให้เพียงพอกับการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงาน ดังนี้ 1.งบกลาง เป็นค่าใช้จ่ายรายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น 2.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมกิจการผู้สูงอายุ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามสิทธิเงินอุดหนุน ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้สูงอายุแบบครอบครัวอุปถัมภ์ 3.กระทรวงแรงงาน สํานักงานประกันสังคม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามสิทธิ ในการชําระเงินสมทบตามแผนงบประมาณรายจ่ายระยะปานกลางสําหรับเงินสมทบกองทุน ประกันสังคม ในส่วนที่รัฐค้างชําระ 4.กระทรวงศึกษาธิการ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมระบบไฟฟ้า สําหรับโรงเรียนที่ขาดแคลน 5.กระทรวงสาธารณสุข สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข การก่อสร้าง อาคารทางการแพทย์และหอพัก สถาบันพระบรมราชชนก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสําหรับ ผลิตนักศึกษาแพทย์ นักศึกษาพยาบาล นักศึกษาด้านสาธารณสุข ผู้ช่วยพยาบาล และ ผู้ช่วยสาธารณสุข 6.สถาบันพระปกเกล้า เป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงห้อง Data Center เพื่อให้เป็นศูนย์ข้อมูลกลางรวบรวมฐานข้อมูลที่สําคัญ ห้องเรียนอัจฉริยะสําหรับฝึกอบรม และประชุมทางไกล 7.หน่วยงานของรัฐสภา หน่วยงานของศาล และหน่วยงานขององค์กรอิสระ และองค์กรอัยการ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุน การดําเนินงานตามภารกิจของ หน่วยงานให้เพียงพอ 8.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในส่วนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็น ค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่เกิดขึ้นเนื่องจากสนับสนุนการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตําบล 9.ทุนหมุนเวียน กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จ่ายให้กู้ยืมสําหรับ ผู้กู้ยืมรายเก่าซึ่งมีสัญญาให้กู้ยืมตามกฎหมายแล้ว และกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายการบริการแพทย์แผนไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าบริการทางการแพทย์ และ10.แผนงานบูรณาการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อชุดทดสอบสารเสพติด

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กมธ.ฯ ได้พิจารณาอนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลง งบประมาณรายจ่าย ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จํานวน 2 รายการ คือ การเปลี่ยนแปลงงบประมาณของรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง และ การเปลี่ยนแปลงงบประมาณของสํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข แผนงานบุคลากรภาครัฐ รายการบุคลากรภาครัฐ ไปเป็นงบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นเงินอุดหนุนสําหรับสนับสนุนการถ่ายโอนบุคลากร สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตําบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด 47 แห่ง


“การพิจารณารายละเอียดงบประมาณทั้งการปรับลด การเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าว กมธ.ฯ ได้ให้ความสําคัญเป็นพิเศษกับความพร้อมและศักยภาพ ของหน่วยงาน ความซ้ําซ้อน เป้าหมายการดําเนินงาน ผลการดําเนินงานที่ผ่านมา ภารกิจสําคัญเพื่อและประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรงเป็นสําคัญ เพื่อให้สามารถดําเนินการภายในกรอบวงเงินสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ การแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนให้เศรษฐกิจเติบโตและมีความเข้มแข็งรองรับผลกระทบทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก รวมทั้งสนับสนุน ประเทศได้อย่างมีเสถียรภาพ ทั้งนี้ผมและกมธ.ฯยินดีและพร้อมที่จะชี้แจง ข้อซักถามของท่านสมาชิกในแต่ละมาตรา”นายจุลพันธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมในวันนี้ล่าช้ากว่ากำหนดการไปมาก เพราะกำหนดการเริ่มประชุมเวลา 09.00 น. แต่เริ่มประชุมจริงในเวลา 09.33 น. เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก