กรุงเทพฯ 2 ก.ย.-คปภ. จับมือภาคธุรกิจประกันภัย ตั้งศูนย์เคลมประกันภัย ออกมาตรการช่วยเหลือภัยน้ำท่วม
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในหลายจังหวัดพื้นที่ทั่วประเทศ สำนักงาน คปภ. จึงได้หารือเร่งด่วน เกี่ยวกับมาตรการ “ศูนย์ประสานงานด้านการประกันภัย” เช่น สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (THAIFA) โดยออกมาตรการเร่งรัดเพื่อช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย ผู้ประกอบการ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งการเคลมประกันภัย และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งระยะสั้นและระยาว ดังนี้
มาตรการที่ 1 การดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านการประกันภัยขึ้นในแต่ละจังหวัดเพื่อติดตาม เร่งรัดการตรวจสอบความเสียหายของทรัพย์สินที่ถูกน้ำท่วม เพื่อชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอย่างถูกต้อง และรวดเร็ว การมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง
มาตรการที่ 2 การประเมินพื้นที่คาดการณ์ว่าจะมีน้ำท่วมเพิ่มเติมเพื่อเตรียมรองรับด้านการประกันภัย และการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น การอำนวยความสะดวกโดยการจัดหาที่จอดรถยนต์บนพื้นที่สูง การเคลื่อนย้ายสิ่งของ หรืออุปกรณ์เครื่องจักรเพื่อป้องกันความเสียหาย การจัดส่งทีมผู้ประเมินความเสียหายลงสำรวจพื้นที่โดยเร็ว พร้อมอำนวยความสะดวกในการขอรับค่าสินไหมทดแทน ให้คำแนะนำขั้นตอนการขอรับค่าสินไหมทดแทนและเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทน รวมทั้งสนับสนุนด้านการซ่อมแซมยานพาหนะ การฟื้นฟูที่พักอาศัย และสถานประกอบการที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงเปิดรับแจ้งเหตุและให้ข้อมูลในช่องทาง Hotline , Online
มาตรการที่ 3 การรับมือปรากฏการณ์ลานีญาในช่วงปี 1-2 ปีนี้ ของภาคธุรกิจประกันภัย ต้องครอบคลุมทั้งการจัดการความเสี่ยง การให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชน รวมถึงการจัดการสินไหมทดแทน เพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันความเสียหายเชิงเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นับเป็นความร่วมมือของสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและประชาชนในนาม “ภาคประกันภัย” จึงได้ร่วมกันจัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานด้านการประกันภัย” เพื่อบูรณาการการทำงานของสำนักงาน คปภ. และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย ในการทำงานเชิงรุกสำหรับสถานการณ์อุทกภัย ปี 2567 พร้อมจะเข้าช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศ
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า ขอฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังการขับขี่ยานพาหนะบริเวณน้ำท่วมไหลผ่านทางที่สัญจร และอันตรายจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรในช่วงน้ำท่วม และขอให้ประชาชนตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย เช่น การประกันภัยรถยนต์ การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน การประกันอัคคีภัยที่ซื้อความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มเติม และการประกันภัยพืชผลทางการเกษตร โดยสามารถรวบรวมหลักฐานความเสียหาย ยื่นขอเบิกค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือสำนักงาน คปภ. ภาค และสำนักงาน คปภ. จังหวัดทั่วประเทศ.-515.-สำนักข่าวไทย