ปักกิ่ง 30 ส.ค. – สายการบินระดับแนวหน้าที่รัฐบาลเป็นเจ้าของประกาศผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก ปรากฎว่าอยู่ในสภาพขาดทุน ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างประเทศช้ากว่าที่คาดหมายเอาไว้ บริการการบินภายในประเทศล้นความต้องการ และการแข่งขันด้านการบินมีความรุนแรง
สายการบิน 3 อันดับแรกของจีน ได้แก่ แอร์ ไชนา ไชนา เซาเทิร์น แอร์ไลน์และไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ มีรายงานผลประกอบการประจำปีมีกำไรสุทธิครั้งสุดท้ายในปี 2019 ก่อนที่จะมีการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 แอร์ไชนา กล่าววานนี้ว่า ประสบภาวะขาดทุนในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ที่ 2,780 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 13,066 ล้านบาท ในขณะที่ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วสายการบินขาดทุนที่ 3,450 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 16,215 ล้านบาท ส่วนไชนา เซาเทิร์น แอร์ไลน์ ขาดทุน 1,230 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 5,780 ล้านบาท ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ จาก 2,900 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 13,630 ล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว
แอร์ไชนา กล่าวว่า การจราจรทางอากาศระหว่างประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นในฃ่วงครึ่งปีแรก จำนวนผู้โดยสารสูงกว่าร้อยละ 80 ของระดับก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2019 แต่เส้นทางไปยังทวีปอเมริกาเหนือฟื้นตัวกลับมาช้า เที่ยวบินระหว่างจีนกับสหรัฐประสบปัญหาจากประเด็นทางการเมืองและความต้องการที่ต่ำ โดยอยู่ที่ระดับ 1 ใน 5 ของที่เคยบินในปี 2019 แอร์ไชนา ยังระบุว่า ในขณะที่เส้นทางการบินระหว่างประเทศยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เครื่องบินโดยสารลำตัวกว้างจึงถูกนำมาใช้ในการบินภายในประเทศ ทำให้ปริมาณที่นั่งมีมากเกินกว่าความต้องการไปมาก
สำหรับไชนา อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในนครเซี่ยงไฮ้ จะประกาศผลประกอบการในวันนี้ แต่เมื่อเดือนที่แล้วคาดหมายว่า จะขาดดทุน 2,900 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 13,630 ล้านบาท.-813.-สำนักข่าวไทย