สมาคมนักข่าวฯ-ThaiPBS ยื่นตรวจสอบจริยธรรม “บิ๊กป้อม”

รัฐสภา​ 21 ส.ค.-สมาคมนักข่าวฯ-ThaiPBS ยื่นตรวจสอบจริยธรรม “บิ๊กป้อม” เหตุมีพฤติกรรมคุกคามสื่อ ประสานเสียงขอให้เป็นบรรทัดฐานการทำหน้าที่ร่วมกับแหล่งข่าว

นายสุปัน รักเชื้อ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พร้อมด้วย นายอิทธิพันธ์ บัวทอง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เข้ายื่นหนังสือต่อ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านทางโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมข้อ 12 และ 13 ในข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ 2563


โดยนายสุปัน กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีการปรากฎคลิป ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร ในประเด็นการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ พล.อ.ประวิตร กลับแสดงพฤติกรรมไม่พอใจ และเกรี้ยวกราด ซึ่ง เป็นการกระทำที่ไม่ใช่ทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งเมื่อพิจารณาอย่างรอบด้านแล้วการกระทำแบบนี้ ไม่ใช่การหยุมหัว แต่เป็นพฤติกรรมที่เกรี้ยวกราดและคุกคามสื่อ ซึ่งนี่ไม่ใช่พฤติกรรมครั้งแรกของนักการเมืองท่านนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีการดูหมิ่นดูแคลนเพื่อนร่วมวิชาชีพมาก่อนดังนั้น จากการพิจารณาจึงยื่นคำร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองคนนี้เพราะนี่เป็นเหตุการณ์ เสมือนนิสัย ที่ทำต่อสื่อมวลชนในความผิดจริยธรรมข้อ 12 และ 13 ทั้งนี้การพิจารณาของคณะกรรมการสภาจะเป็นอย่างไรขอไม่ก้าวล่วงแต่ขอทราบผลการพิจารณาทุกขั้นตอนตามที่ระบุไว้ในระเบียบข้อบังคับ และไม่ใช่เป็นการเร่งรัด แต่มองว่าเช่นเดียวกันหากสื่อ ถูกยื่นตรวจสอบจริยธรรมทางสมาคมก็จะตรวจสอบโดยใช้กรอบเวลา 30 วันและคาดว่าการตรวจสอบของสภาจะใช้เวลาประมาณเดียวกัน ทั้งนี้ นอกจากที่สมาคมจะมายื่นกับสภาแล้ว ยังมีองค์กรภาคประชาสังคมเตรียมยื่นให้กับ ป.ป.ช.แล้วด้วย

นายสุปัน ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายคนมองว่าเจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง ว่า เป็นการตีความในเรื่องของการทำร้ายร่างกายซึ่งเจ้าทุกข์จะต้องเป็นผู้ร้องแต่เรากำลังพูดถึงจริยธรรมและการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่การทำหน้าที่จะต้องได้รับการปกป้อง และต้องตระหนักในส่วนนี้แต่ถ้าใครจะเปลี่ยนประเด็นไปที่เรื่องของการถูกกระทำ ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกระทำ


“นี่คือปรากฏการณ์ครั้งแรกที่เพื่อนร่วมวิชาชีพลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิเสรีภาพของเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันมากกว่าการออกแถลงการณ์ และด้วยการที่เป็นวิชาชีพสื่อสามารถทำได้แค่นั้นและนี่อาจจะเป็นเรื่องใหม่ และเป็นบรรทัดฐานให้กับนักการเมืองที่จะปฏิบัติต่อสื่อมวลชนให้ตระหนักว่าเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งเราทำหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้าแหล่งข่าวหรือนักการเมืองไม่เต็มใจที่จะตอบ หรือไม่พร้อมที่จะตอบ ก็ขอให้บอกว่าไม่ตอบ อย่างล่าสุดอดีตนายกรัฐมนตรีที่ยิ้มแล้วเดินออกไปไม่เห็นจะต้องแสดงกิริยา ที่เกรี้ยวกราดและคุกคามกันขนาดนี้” นายสุปัน กล่าว

นายสุปัน ยังกล่าวด้วยว่า การยื่นร้องครั้งนี้ยืนยันไม่มีประเด็นทางการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง เพียงแค่ต้องการปกป้องสิทธิเสรีภาพในการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพมากกว่าที่จะถูกโยงไปเป็นประเด็นทางการเมือง และเรื่องนี้องค์กรวิชาชีพได้ปรึกษากันในทุกแง่ทุกมุม และได้มีการส่งคลิปให้กับคณะกรรมการไว้พิจารณาด้วย และการแสดงท่าทีล่าช้าเป็นเพราะต้องดูในทุกแง่ทุกมุม และต้องรอบคอบพอสมควรในกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่เรามีอยู่

ขณะที่นายนพดล ศรีหทัย บรรณาธิการบริหาร ThaiPBS  ยื่นหนังสือขอให้สอบจริยธรรมพลเอกประวิตรเช่นเดียวกัน เนื่องจากภายหลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวแล้ว พบว่าไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เนื่องจากไทยพีบีเอส เป็นองค์กรสื่อสาธารณะที่ต้องคุ้มครองผู้สื่อข่าว เพราะการทำงานของสื่อหลังจากนี้ที่มีความเข้มข้นขึ้น ดังนั้นการข่มขู่ ทำร้ายเป็นการริดรอนสิทธิ์ของการทำงานของสื่อ และการยื่นในครั้งนี้จะเป็นบรรทัดฐาน และ การยื่นในครั้งนี้เพื่อให้เกิดเป็นแบบอย่างการทำหน้าที่ของสื่อและบรรทัดฐานทางจริยธรรม


ส่วนการดำเนินคดีอาญาข้อหาทำร้ายร่างกายนั้นขอให้เป็นหน้าที่ของสมาคมสื่อทำไปก่อน เนื่องจากมองว่าหากดำเนินการจะมีผลต่อการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวที่ ต้องทำงานร่วมกับแหล่งข่าว ซึ่งสอดคล้องกับเจตจำนงของผู้สื่อข่าวที่อยู่ในคลิปที่ไม่ต้องการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการยื่นสอบในครั้งนี้คงไม่มีผลต่อการทำหน้าที่สื่อสาธารณะ และคงไม่ใช่เรื่องที่ไม่กล้าเดินหน้านำเสนอสิ่งที่ประชาชนอยากรู้

ส่วนเรื่องการพูดคุยกันระหว่างพลเอกประวิตรกับผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว ว่าเป็นการหยอกล้อนั้น นายนพดล กล่าวว่า ภาพที่ออกมาไม่ใช่การหยอกล้อและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสามารถดูออกว่า เป็นการหยอกล้อหรือข่มขู่ทำร้ายร่างกาย.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง