ร้องป.ป.ช.เอาผิดอาญา 3 สส.ก้าวไกล

สำนักงานป.ป.ช. 2 ก.พ.-แนวร่วมเพจก้าวไกลโกหกอะไรร้องป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญา-ตรวจสอบริยธรรมเพื่อถอดถอน 3 สส.ก้าวไกล ชี้ “จิรัฏฐ์” ทำเอกสารปลอม ส่วน “วิโรจน์-ศุภณัฐ” นำข้อมูลเท็จเข้าระบบคอมพ์-กล่าวหากองทัพ ติงก้าวไกลเลิกเล่นบทเหยื่อ


ตัวแทนจากเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร”  นำโดยนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และนายนิยม นพรัตน์ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญาและตรวจสอบจริยธรรม  สส.ก้าวไกล 3 คน ประกอบด้วย นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศรและนายศุภณัฐ  มีนชัยนันท์ ซึ่งกระทำความผิดในขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

นายทันกวินท์ กล่าวว่า นายจิรัฏฐ์นำเอกสารใบสด.43 แสดงต่อสาธารณชน    โดยระบุว่าเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ พร้อมท้าให้ไปตรวจสอบลายเซ็นในปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายจิรัฏฐ์ผ่อนผันทหารอยู่ ขณะที่หน่วยงานภาครัฐยืนยันว่าไม่ใช่เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ จึงเกิดพิรุธว่าในช่วงเวลาที่นายจิรัฏฐ์กล่าวอ้าง เหตุใดจึงมีคำว่าหมายเลขดำอยู่บนเอกสารที่นำมาแสดง เรื่องนี้จึงไม่ใช่การซื้อใบสด.43 แต่เป็นการปลอมแปลงเอกสาร โดยที่นายจิรัฏฐ์ทราบดีอยู่แล้วว่าเอกสารนั้นเป็นอย่างไร จึงเข้าข่ายใช้เอกสารปลอมเผยแพร่ต่อสาธารณะ 


“นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพราะข้อเท็จจริงคือหากไม่ได้รับการตรวจเลือกในวันที่ถูกเรียกตัว จะต้องได้รับคำพิพากษาจากศาลว่ากระทำความผิดอะไร และต้องเข้ารับราชการทหารทันทีโดยไม่มีสิทธิจับสลาก แต่นายจิรัฏฐ์อ้างว่าตนเองไปเสียค่าปรับแล้วกลับมาจับใบดำใบแดงได้ เป็นการให้ข้อมูลบิดเบือนที่ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลผิดพลาด จึงเป็นการกระทำความผิดทางอาญา” นายทันกวินท์ กล่าว

นายทันกวินท์ กล่าวว่า ส่วนนายวิโรจน์  พบข้อมูลว่าให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน ที่นายวิโรจน์ตั้งคำถามว่าเมื่อชำระเงินหรือจ่ายเงินซื้อใบสด.43 ภาครัฐหรือกองทัพเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ เหมือนเห็นด้วยที่นายจิรัฏฐ์จ่ายเงินแล้วจะต้องได้เอกสารจริง    ทั้งที่นายวิโรจน์เป็นประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร มีอำนาจตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องท้าทายประชาชน ไม่จำเป็นต้องท้าทายสื่อมวลชนและกองทัพ แต่ดำเนินการได้เลย ดังนั้น ข้อกล่าวหาคำว่าฉ้อโกง เป็นการยืนยันว่านายวิโรจน์ และนายจิรัฏฐ์รู้อยู่แล้วว่ามีการจ่ายค่าปรับใบสด.43 ให้กับใคร และเมื่อไม่ได้เอกสารฉบับจริงแล้วจะไปฟ้องฐานฉ้อโกง เป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และหมิ่นประมาทกองทัพหรือไม่

“กรณีของนายศุภณัฐ พบว่าการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้(1 ก.พ.) กรณีซื้อขาย ใบสด.43 เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ใช้อำนาจในการฟ้องขณะที่เป็นสส. แต่กลับกล่าวหากองทัพว่าซื้อขายใบสด.43 ผมจึงจะใช้อำนาจของประชาชนตรวจสอบทั้ง 3 คน ซึ่งหลังจากยื่นร้อง ป.ป.ช.รอบนี้แล้ว ส่วนของนายจิรัฏฐ์จะจบที่ป.ป.ช. แต่กรณีนายวิโรจน์และนายศุภณัฐจะมีเรื่องของจริยธรรม จึงอยากเรียกร้องให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบจริยธรรมว่าใช้ตำแหน่ง ใช้อำนาจสส.มาข่มเหง กล่าวหาและท้าทายประชาชนหรือไม่ ถ้าคณะกรรมการจริยธรรมไม่ปฏิบัติหน้าที่ ผมจะฟ้องคณะกรรมการจริยธรรมเช่นกัน และก่อนหน้านี้กองทัพได้บอกว่าจะร้องทุกข์  คงต้องรอว่าจะดำเนินการอย่างไร หากกองทัพไม่ดำเนินการก็จะฟ้องกลับทันทีเช่นกัน” นายทันกวินท์ กล่าว


นายทันกวินท์ กล่าวว่า ที่นายศุภณัฐไม่เอาเอกสารมาชี้แจง คงเพราะกลัวซ้ำรอยกับนายจิรัฏฐ์ จึงอยากให้เอาออกมาโชว์เพื่อจะได้ดำเนินการตามความผิดทางอาญา   และนายศุภณัฐเคยต้องคำพิพากษาจากการไม่ไปเกณฑ์ทหารเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2555   ส่วนของนายจิรัฏฐ์ก็เกิดขึ้น ปี 2555 แต่คำชี้แจงแตกต่างกัน เพราะนายศุภณัฐชี้แจงได้ชัดเจนว่าหลังต้องคำพิพากษาจะต้องไปแสดงตนเพื่อเข้ารับราชการทหารโดยไม่มีสิทธิ์จับสลากใบดำ ใบแดงแล้ว แต่นายจิรัฏฐ์เกิดขึ้นปี 2555 เช่นกันแต่กลับอ้างว่าจำไม่ได้

ด้านนายนิยม กล่าวว่า กรณีของนายจิรัฏฐ์ จากการตรวจสอบมั่นใจ 100%  ว่าไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและใช้เอกสารปลอมชี้แจงต่อสาธารณะ จึงมายื่นต่อป.ป.ช.เพื่อถอดถอน พร้อมมอบหลักฐานรวมถึงคำพิพากษาศาลและข้อกฎหมายต่าง ๆ ด้วย อยากฝากถึงสส.แบงค์ ซึ่งมีชื่อคนหนึ่งคล้ายสส. ถูกคำพิพากษาเมื่อปี 2555 จากกรณีไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและถูกตัดสินจำคุก แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี และนายศุภณัฐท้าทายให้เปิดหลักฐาน ซึ่งหากไม่จริงก็ควรจะตอบคำถามมาว่า ไม่ได้หนีทหารและอยากให้นำเอกสารมาชี้แจง ไม่ใช่มาตั้งคำถามกลับ แล้วบอกจะฟ้อง

“ผมถามว่าสส.พรรคก้าวไกล ประชาชนห้ามถาม  ห้ามสงสัยใช่หรือไม่   ประชาชนห้ามตรวจสอบพวกคุณใช่หรือไม่ พวกคุณอยากให้ยกเลิกและต้องการแก้ไข ม.112 เพื่อจะตั้งคำถามกับสถาบัน แต่ผมถามคุณในฐานะประชาชนที่เห็นความไม่ปกติ ซึ่งเราได้ข้อมูลมาแบบนี้ คุณก็ต้องชี้แจงต่อสาธารณะว่าไปรับการเกณฑ์ทหารมาจริง และสิ่งที่พวกผมพูดเป็นการกล่าวหา เอาเอกสารใบสด.43 มายืนยัน ฝากถึงสส.แบงค์อย่าข่มขู่ประชาชน ฝากบอกสส.ก้าวไกล เลิกเล่นบทเหยื่อสักที เวลามีปัญหาอะไรจากการกระทำของพวกคุณเอง พอพวกเราออกมาตรวจสอบก็กล่าวหาว่าเป็นไอโอ กล่าวหาว่าเป็นกลุ่มที่ต้องการมาดิสเครดิต ซึ่งถ้าในอดีตไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้ไว้ ใครจะมาตรวจสอบคุณได้ ถ้าไม่ผิดจะกลัวทำไม” นายนิยม กล่าว

นายนิยม กล่าวว่า วันนี้เพจก้าวไกลโกหกอะไร ตั้งคำถามถึงสส.แบงค์ว่าได้เข้ารับการตรวจเลือกการเกณฑ์ทหารหรือไม่ เพราะมีข้อมูลว่าถูกตัดสิทธิ์เมื่อปี 2555 และไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและรอการกำหนดโทษ  หากแน่จริงก็เอาใบสด.43 ออกมาโชว์  แบบนายจิรัฏฐ์ เพราะเราอยากเห็น

“ผมมั่นใจในหลักฐานที่มีอยู่ ที่พรรคก้าวไกลบอกว่าคนเท่าเทียมกัน แต่เมื่อวานคุณให้สัมภาษณ์ว่าสส.มีตัวเล็ก ตัวใหญ่ นี่เป็นความไม่เท่าเทียมของพรรคคุณ และกำลังสะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำของสังคม เพราะคุณเป็นลูกคนมีเงิน ไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร อันนี้เป็นความเหลื่อมล้ำ ใช้อำนาจอื่นเข้ามาช่วยเหลือ และฝากถึงกองเชียร์พรรคก้าวไกลด้วยว่าเห็นความเหลื่อมล้ำหรือไม่” นายนิยม กล่าว

ส่วนนายแทนคุณ กล่าวว่า หน้าที่เปิดโปงเป็นหน้าที่ของสส.ฝ่ายค้าน และขออย่ารอช้า การมายื่นหนังสือวันนี้มาในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ หลังมีคนมาขอให้สอย  สส.พรรคก้าวไกลเดือนละคน.-314 .-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ตำรวจไล่ล่า-ยิงยางสกัดกระบะซิ่ง พบไอซ์ซุกในรถ

17 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากระบะซิ่งหนีชนดะ ต้องยิงยางสกัดจึงสิ้นฤทธิ์ ตรวจค้นพบไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถ เพจเฟสบุ๊กชื่อ วัชรพล สายไหม เพิ่มสิน สุขาภิบาล 5 โพสต์ข้อความระบุว่า “เลี่ยงทางถนนเทพารักษ์ วัชรพล” พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ที่มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเร่งเครื่องจนควันดำเต็มถนน เหมือนพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในคลิปจะเห็นว่าด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถกระบะจอดขวางทางอยู่ 1 คัน และด้านซ้ายของคลิปจะเห็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจล้มอยู่ อีกทั้งยังได้ยิงเสียงปืน และในจังหวะที่รถกระบะกำลังถอยเพื่อกลับลำหนี มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง เพื่อปิดทางหนีของรถกระบะคันดังกล่าว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุบกระจกรถกระบะ พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากรถได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน ล้อด้านซ้ายแตกทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางล้อหน้าด้านซ้ายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลางไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถกระบะ ด้านพลเมืองที่ช่วยตำรวจสกัดคนร้ายไม่ให้หลบหนี คือนายประหยัด เจ้าของรถกระบะวีโก้สีดำ ได้รับความเสียหายบริเวณตัวรถด้านซ้ายจนถึงท้ายรถ ซึ่งจอดขวางหน้ารถกระบะคันก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองขับรถอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ขี่ไล่รถกระบะคันเกิดเหตุมาจนมาถึงซอยเทพรักษ์ 23 รถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของตนเองเลยขับตามมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาไล่จับอะไรกัน แต่ได้ยินสายตรวจบอกให้ช่วยไล่ จึงช่วยเพราะก็ถูกชนแล้วหนีเหมือนกัน จนมาช่วยสกัดได้ตรงนี้ […]

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]

ยักยอกเงินวัด

โกงผ่านวัด… อุดช่องโหว่คอร์รัปชัน

17 พ.ค.- อีกประเด็นสำคัญที่ต้องกวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจัง คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง เกิดขึ้นแทบทุกวงการ ไม่เว้นวัด หลายปีที่ผ่านมา คดี “เงินทอนวัด” หรือการทุจริตเงินอุดหนุนวัด สะเทือนวงการสงฆ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ จะไปพูดคุยเรื่องนี้ กับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) .-สำนักข่าวไทย