ร้องป.ป.ช.เอาผิดอาญา 3 สส.ก้าวไกล

สำนักงานป.ป.ช. 2 ก.พ.-แนวร่วมเพจก้าวไกลโกหกอะไรร้องป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญา-ตรวจสอบริยธรรมเพื่อถอดถอน 3 สส.ก้าวไกล ชี้ “จิรัฏฐ์” ทำเอกสารปลอม ส่วน “วิโรจน์-ศุภณัฐ” นำข้อมูลเท็จเข้าระบบคอมพ์-กล่าวหากองทัพ ติงก้าวไกลเลิกเล่นบทเหยื่อ


ตัวแทนจากเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร”  นำโดยนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และนายนิยม นพรัตน์ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญาและตรวจสอบจริยธรรม  สส.ก้าวไกล 3 คน ประกอบด้วย นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศรและนายศุภณัฐ  มีนชัยนันท์ ซึ่งกระทำความผิดในขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

นายทันกวินท์ กล่าวว่า นายจิรัฏฐ์นำเอกสารใบสด.43 แสดงต่อสาธารณชน    โดยระบุว่าเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ พร้อมท้าให้ไปตรวจสอบลายเซ็นในปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายจิรัฏฐ์ผ่อนผันทหารอยู่ ขณะที่หน่วยงานภาครัฐยืนยันว่าไม่ใช่เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ จึงเกิดพิรุธว่าในช่วงเวลาที่นายจิรัฏฐ์กล่าวอ้าง เหตุใดจึงมีคำว่าหมายเลขดำอยู่บนเอกสารที่นำมาแสดง เรื่องนี้จึงไม่ใช่การซื้อใบสด.43 แต่เป็นการปลอมแปลงเอกสาร โดยที่นายจิรัฏฐ์ทราบดีอยู่แล้วว่าเอกสารนั้นเป็นอย่างไร จึงเข้าข่ายใช้เอกสารปลอมเผยแพร่ต่อสาธารณะ 


“นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพราะข้อเท็จจริงคือหากไม่ได้รับการตรวจเลือกในวันที่ถูกเรียกตัว จะต้องได้รับคำพิพากษาจากศาลว่ากระทำความผิดอะไร และต้องเข้ารับราชการทหารทันทีโดยไม่มีสิทธิจับสลาก แต่นายจิรัฏฐ์อ้างว่าตนเองไปเสียค่าปรับแล้วกลับมาจับใบดำใบแดงได้ เป็นการให้ข้อมูลบิดเบือนที่ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลผิดพลาด จึงเป็นการกระทำความผิดทางอาญา” นายทันกวินท์ กล่าว

นายทันกวินท์ กล่าวว่า ส่วนนายวิโรจน์  พบข้อมูลว่าให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน ที่นายวิโรจน์ตั้งคำถามว่าเมื่อชำระเงินหรือจ่ายเงินซื้อใบสด.43 ภาครัฐหรือกองทัพเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ เหมือนเห็นด้วยที่นายจิรัฏฐ์จ่ายเงินแล้วจะต้องได้เอกสารจริง    ทั้งที่นายวิโรจน์เป็นประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร มีอำนาจตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องท้าทายประชาชน ไม่จำเป็นต้องท้าทายสื่อมวลชนและกองทัพ แต่ดำเนินการได้เลย ดังนั้น ข้อกล่าวหาคำว่าฉ้อโกง เป็นการยืนยันว่านายวิโรจน์ และนายจิรัฏฐ์รู้อยู่แล้วว่ามีการจ่ายค่าปรับใบสด.43 ให้กับใคร และเมื่อไม่ได้เอกสารฉบับจริงแล้วจะไปฟ้องฐานฉ้อโกง เป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และหมิ่นประมาทกองทัพหรือไม่

“กรณีของนายศุภณัฐ พบว่าการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้(1 ก.พ.) กรณีซื้อขาย ใบสด.43 เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ใช้อำนาจในการฟ้องขณะที่เป็นสส. แต่กลับกล่าวหากองทัพว่าซื้อขายใบสด.43 ผมจึงจะใช้อำนาจของประชาชนตรวจสอบทั้ง 3 คน ซึ่งหลังจากยื่นร้อง ป.ป.ช.รอบนี้แล้ว ส่วนของนายจิรัฏฐ์จะจบที่ป.ป.ช. แต่กรณีนายวิโรจน์และนายศุภณัฐจะมีเรื่องของจริยธรรม จึงอยากเรียกร้องให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบจริยธรรมว่าใช้ตำแหน่ง ใช้อำนาจสส.มาข่มเหง กล่าวหาและท้าทายประชาชนหรือไม่ ถ้าคณะกรรมการจริยธรรมไม่ปฏิบัติหน้าที่ ผมจะฟ้องคณะกรรมการจริยธรรมเช่นกัน และก่อนหน้านี้กองทัพได้บอกว่าจะร้องทุกข์  คงต้องรอว่าจะดำเนินการอย่างไร หากกองทัพไม่ดำเนินการก็จะฟ้องกลับทันทีเช่นกัน” นายทันกวินท์ กล่าว


นายทันกวินท์ กล่าวว่า ที่นายศุภณัฐไม่เอาเอกสารมาชี้แจง คงเพราะกลัวซ้ำรอยกับนายจิรัฏฐ์ จึงอยากให้เอาออกมาโชว์เพื่อจะได้ดำเนินการตามความผิดทางอาญา   และนายศุภณัฐเคยต้องคำพิพากษาจากการไม่ไปเกณฑ์ทหารเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2555   ส่วนของนายจิรัฏฐ์ก็เกิดขึ้น ปี 2555 แต่คำชี้แจงแตกต่างกัน เพราะนายศุภณัฐชี้แจงได้ชัดเจนว่าหลังต้องคำพิพากษาจะต้องไปแสดงตนเพื่อเข้ารับราชการทหารโดยไม่มีสิทธิ์จับสลากใบดำ ใบแดงแล้ว แต่นายจิรัฏฐ์เกิดขึ้นปี 2555 เช่นกันแต่กลับอ้างว่าจำไม่ได้

ด้านนายนิยม กล่าวว่า กรณีของนายจิรัฏฐ์ จากการตรวจสอบมั่นใจ 100%  ว่าไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและใช้เอกสารปลอมชี้แจงต่อสาธารณะ จึงมายื่นต่อป.ป.ช.เพื่อถอดถอน พร้อมมอบหลักฐานรวมถึงคำพิพากษาศาลและข้อกฎหมายต่าง ๆ ด้วย อยากฝากถึงสส.แบงค์ ซึ่งมีชื่อคนหนึ่งคล้ายสส. ถูกคำพิพากษาเมื่อปี 2555 จากกรณีไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและถูกตัดสินจำคุก แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี และนายศุภณัฐท้าทายให้เปิดหลักฐาน ซึ่งหากไม่จริงก็ควรจะตอบคำถามมาว่า ไม่ได้หนีทหารและอยากให้นำเอกสารมาชี้แจง ไม่ใช่มาตั้งคำถามกลับ แล้วบอกจะฟ้อง

“ผมถามว่าสส.พรรคก้าวไกล ประชาชนห้ามถาม  ห้ามสงสัยใช่หรือไม่   ประชาชนห้ามตรวจสอบพวกคุณใช่หรือไม่ พวกคุณอยากให้ยกเลิกและต้องการแก้ไข ม.112 เพื่อจะตั้งคำถามกับสถาบัน แต่ผมถามคุณในฐานะประชาชนที่เห็นความไม่ปกติ ซึ่งเราได้ข้อมูลมาแบบนี้ คุณก็ต้องชี้แจงต่อสาธารณะว่าไปรับการเกณฑ์ทหารมาจริง และสิ่งที่พวกผมพูดเป็นการกล่าวหา เอาเอกสารใบสด.43 มายืนยัน ฝากถึงสส.แบงค์อย่าข่มขู่ประชาชน ฝากบอกสส.ก้าวไกล เลิกเล่นบทเหยื่อสักที เวลามีปัญหาอะไรจากการกระทำของพวกคุณเอง พอพวกเราออกมาตรวจสอบก็กล่าวหาว่าเป็นไอโอ กล่าวหาว่าเป็นกลุ่มที่ต้องการมาดิสเครดิต ซึ่งถ้าในอดีตไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้ไว้ ใครจะมาตรวจสอบคุณได้ ถ้าไม่ผิดจะกลัวทำไม” นายนิยม กล่าว

นายนิยม กล่าวว่า วันนี้เพจก้าวไกลโกหกอะไร ตั้งคำถามถึงสส.แบงค์ว่าได้เข้ารับการตรวจเลือกการเกณฑ์ทหารหรือไม่ เพราะมีข้อมูลว่าถูกตัดสิทธิ์เมื่อปี 2555 และไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและรอการกำหนดโทษ  หากแน่จริงก็เอาใบสด.43 ออกมาโชว์  แบบนายจิรัฏฐ์ เพราะเราอยากเห็น

“ผมมั่นใจในหลักฐานที่มีอยู่ ที่พรรคก้าวไกลบอกว่าคนเท่าเทียมกัน แต่เมื่อวานคุณให้สัมภาษณ์ว่าสส.มีตัวเล็ก ตัวใหญ่ นี่เป็นความไม่เท่าเทียมของพรรคคุณ และกำลังสะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำของสังคม เพราะคุณเป็นลูกคนมีเงิน ไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร อันนี้เป็นความเหลื่อมล้ำ ใช้อำนาจอื่นเข้ามาช่วยเหลือ และฝากถึงกองเชียร์พรรคก้าวไกลด้วยว่าเห็นความเหลื่อมล้ำหรือไม่” นายนิยม กล่าว

ส่วนนายแทนคุณ กล่าวว่า หน้าที่เปิดโปงเป็นหน้าที่ของสส.ฝ่ายค้าน และขออย่ารอช้า การมายื่นหนังสือวันนี้มาในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ หลังมีคนมาขอให้สอย  สส.พรรคก้าวไกลเดือนละคน.-314 .-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย