ร้องป.ป.ช.เอาผิดอาญา 3 สส.ก้าวไกล

สำนักงานป.ป.ช. 2 ก.พ.-แนวร่วมเพจก้าวไกลโกหกอะไรร้องป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญา-ตรวจสอบริยธรรมเพื่อถอดถอน 3 สส.ก้าวไกล ชี้ “จิรัฏฐ์” ทำเอกสารปลอม ส่วน “วิโรจน์-ศุภณัฐ” นำข้อมูลเท็จเข้าระบบคอมพ์-กล่าวหากองทัพ ติงก้าวไกลเลิกเล่นบทเหยื่อ


ตัวแทนจากเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร”  นำโดยนายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และนายนิยม นพรัตน์ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญาและตรวจสอบจริยธรรม  สส.ก้าวไกล 3 คน ประกอบด้วย นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศรและนายศุภณัฐ  มีนชัยนันท์ ซึ่งกระทำความผิดในขณะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

นายทันกวินท์ กล่าวว่า นายจิรัฏฐ์นำเอกสารใบสด.43 แสดงต่อสาธารณชน    โดยระบุว่าเป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ พร้อมท้าให้ไปตรวจสอบลายเซ็นในปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายจิรัฏฐ์ผ่อนผันทหารอยู่ ขณะที่หน่วยงานภาครัฐยืนยันว่าไม่ใช่เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ จึงเกิดพิรุธว่าในช่วงเวลาที่นายจิรัฏฐ์กล่าวอ้าง เหตุใดจึงมีคำว่าหมายเลขดำอยู่บนเอกสารที่นำมาแสดง เรื่องนี้จึงไม่ใช่การซื้อใบสด.43 แต่เป็นการปลอมแปลงเอกสาร โดยที่นายจิรัฏฐ์ทราบดีอยู่แล้วว่าเอกสารนั้นเป็นอย่างไร จึงเข้าข่ายใช้เอกสารปลอมเผยแพร่ต่อสาธารณะ 


“นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพราะข้อเท็จจริงคือหากไม่ได้รับการตรวจเลือกในวันที่ถูกเรียกตัว จะต้องได้รับคำพิพากษาจากศาลว่ากระทำความผิดอะไร และต้องเข้ารับราชการทหารทันทีโดยไม่มีสิทธิจับสลาก แต่นายจิรัฏฐ์อ้างว่าตนเองไปเสียค่าปรับแล้วกลับมาจับใบดำใบแดงได้ เป็นการให้ข้อมูลบิดเบือนที่ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลผิดพลาด จึงเป็นการกระทำความผิดทางอาญา” นายทันกวินท์ กล่าว

นายทันกวินท์ กล่าวว่า ส่วนนายวิโรจน์  พบข้อมูลว่าให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชน ที่นายวิโรจน์ตั้งคำถามว่าเมื่อชำระเงินหรือจ่ายเงินซื้อใบสด.43 ภาครัฐหรือกองทัพเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ เหมือนเห็นด้วยที่นายจิรัฏฐ์จ่ายเงินแล้วจะต้องได้เอกสารจริง    ทั้งที่นายวิโรจน์เป็นประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร มีอำนาจตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องท้าทายประชาชน ไม่จำเป็นต้องท้าทายสื่อมวลชนและกองทัพ แต่ดำเนินการได้เลย ดังนั้น ข้อกล่าวหาคำว่าฉ้อโกง เป็นการยืนยันว่านายวิโรจน์ และนายจิรัฏฐ์รู้อยู่แล้วว่ามีการจ่ายค่าปรับใบสด.43 ให้กับใคร และเมื่อไม่ได้เอกสารฉบับจริงแล้วจะไปฟ้องฐานฉ้อโกง เป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และหมิ่นประมาทกองทัพหรือไม่

“กรณีของนายศุภณัฐ พบว่าการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้(1 ก.พ.) กรณีซื้อขาย ใบสด.43 เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ใช้อำนาจในการฟ้องขณะที่เป็นสส. แต่กลับกล่าวหากองทัพว่าซื้อขายใบสด.43 ผมจึงจะใช้อำนาจของประชาชนตรวจสอบทั้ง 3 คน ซึ่งหลังจากยื่นร้อง ป.ป.ช.รอบนี้แล้ว ส่วนของนายจิรัฏฐ์จะจบที่ป.ป.ช. แต่กรณีนายวิโรจน์และนายศุภณัฐจะมีเรื่องของจริยธรรม จึงอยากเรียกร้องให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบจริยธรรมว่าใช้ตำแหน่ง ใช้อำนาจสส.มาข่มเหง กล่าวหาและท้าทายประชาชนหรือไม่ ถ้าคณะกรรมการจริยธรรมไม่ปฏิบัติหน้าที่ ผมจะฟ้องคณะกรรมการจริยธรรมเช่นกัน และก่อนหน้านี้กองทัพได้บอกว่าจะร้องทุกข์  คงต้องรอว่าจะดำเนินการอย่างไร หากกองทัพไม่ดำเนินการก็จะฟ้องกลับทันทีเช่นกัน” นายทันกวินท์ กล่าว


นายทันกวินท์ กล่าวว่า ที่นายศุภณัฐไม่เอาเอกสารมาชี้แจง คงเพราะกลัวซ้ำรอยกับนายจิรัฏฐ์ จึงอยากให้เอาออกมาโชว์เพื่อจะได้ดำเนินการตามความผิดทางอาญา   และนายศุภณัฐเคยต้องคำพิพากษาจากการไม่ไปเกณฑ์ทหารเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2555   ส่วนของนายจิรัฏฐ์ก็เกิดขึ้น ปี 2555 แต่คำชี้แจงแตกต่างกัน เพราะนายศุภณัฐชี้แจงได้ชัดเจนว่าหลังต้องคำพิพากษาจะต้องไปแสดงตนเพื่อเข้ารับราชการทหารโดยไม่มีสิทธิ์จับสลากใบดำ ใบแดงแล้ว แต่นายจิรัฏฐ์เกิดขึ้นปี 2555 เช่นกันแต่กลับอ้างว่าจำไม่ได้

ด้านนายนิยม กล่าวว่า กรณีของนายจิรัฏฐ์ จากการตรวจสอบมั่นใจ 100%  ว่าไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและใช้เอกสารปลอมชี้แจงต่อสาธารณะ จึงมายื่นต่อป.ป.ช.เพื่อถอดถอน พร้อมมอบหลักฐานรวมถึงคำพิพากษาศาลและข้อกฎหมายต่าง ๆ ด้วย อยากฝากถึงสส.แบงค์ ซึ่งมีชื่อคนหนึ่งคล้ายสส. ถูกคำพิพากษาเมื่อปี 2555 จากกรณีไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและถูกตัดสินจำคุก แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี และนายศุภณัฐท้าทายให้เปิดหลักฐาน ซึ่งหากไม่จริงก็ควรจะตอบคำถามมาว่า ไม่ได้หนีทหารและอยากให้นำเอกสารมาชี้แจง ไม่ใช่มาตั้งคำถามกลับ แล้วบอกจะฟ้อง

“ผมถามว่าสส.พรรคก้าวไกล ประชาชนห้ามถาม  ห้ามสงสัยใช่หรือไม่   ประชาชนห้ามตรวจสอบพวกคุณใช่หรือไม่ พวกคุณอยากให้ยกเลิกและต้องการแก้ไข ม.112 เพื่อจะตั้งคำถามกับสถาบัน แต่ผมถามคุณในฐานะประชาชนที่เห็นความไม่ปกติ ซึ่งเราได้ข้อมูลมาแบบนี้ คุณก็ต้องชี้แจงต่อสาธารณะว่าไปรับการเกณฑ์ทหารมาจริง และสิ่งที่พวกผมพูดเป็นการกล่าวหา เอาเอกสารใบสด.43 มายืนยัน ฝากถึงสส.แบงค์อย่าข่มขู่ประชาชน ฝากบอกสส.ก้าวไกล เลิกเล่นบทเหยื่อสักที เวลามีปัญหาอะไรจากการกระทำของพวกคุณเอง พอพวกเราออกมาตรวจสอบก็กล่าวหาว่าเป็นไอโอ กล่าวหาว่าเป็นกลุ่มที่ต้องการมาดิสเครดิต ซึ่งถ้าในอดีตไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้ไว้ ใครจะมาตรวจสอบคุณได้ ถ้าไม่ผิดจะกลัวทำไม” นายนิยม กล่าว

นายนิยม กล่าวว่า วันนี้เพจก้าวไกลโกหกอะไร ตั้งคำถามถึงสส.แบงค์ว่าได้เข้ารับการตรวจเลือกการเกณฑ์ทหารหรือไม่ เพราะมีข้อมูลว่าถูกตัดสิทธิ์เมื่อปี 2555 และไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารและรอการกำหนดโทษ  หากแน่จริงก็เอาใบสด.43 ออกมาโชว์  แบบนายจิรัฏฐ์ เพราะเราอยากเห็น

“ผมมั่นใจในหลักฐานที่มีอยู่ ที่พรรคก้าวไกลบอกว่าคนเท่าเทียมกัน แต่เมื่อวานคุณให้สัมภาษณ์ว่าสส.มีตัวเล็ก ตัวใหญ่ นี่เป็นความไม่เท่าเทียมของพรรคคุณ และกำลังสะท้อนให้เห็นความเหลื่อมล้ำของสังคม เพราะคุณเป็นลูกคนมีเงิน ไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร อันนี้เป็นความเหลื่อมล้ำ ใช้อำนาจอื่นเข้ามาช่วยเหลือ และฝากถึงกองเชียร์พรรคก้าวไกลด้วยว่าเห็นความเหลื่อมล้ำหรือไม่” นายนิยม กล่าว

ส่วนนายแทนคุณ กล่าวว่า หน้าที่เปิดโปงเป็นหน้าที่ของสส.ฝ่ายค้าน และขออย่ารอช้า การมายื่นหนังสือวันนี้มาในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ หลังมีคนมาขอให้สอย  สส.พรรคก้าวไกลเดือนละคน.-314 .-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย