ศรีสะเกษ 2 ส.ค.- เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย เดินทางไปยังช่องนางอิง ชายแดนไทย-ลาว เพื่อเข้าตรวจสอบจุดที่มีชาวบ้านฝั่ง สปป.ลาวพบกระดูกมนุษย์
เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ร่วมกันพานายบัวกัน อุ่นอ่อน อาของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย ที่หายตัวไป เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์เข้าป่า ระยะทาง 6 กิโลเมตร ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ต่อด้วยเดินเท้ากว่า 5 กิโลเมตร ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ไปที่ช่องนางอิง ชายแดนไทย-ลาว เพื่อเข้าตรวจสอบจุดที่มีชาวบ้านฝั่ง สปป.ลาว พบกระดูกมนุษย์
เมื่อไปถึงได้มีทหารจากฝั่ง สปป.ลาว นำโดย พ.ต.บุญหลี แก้วมณีวง หัวหน้าห้องการคณะกรรมการป้องกันชาติ ป้องกันความสงบ แขวงจำปาสัก นำกระดูกมาส่งให้เจ้าหน้าที่ไทย มีกะโหลกศีรษะ 1 กะโหลก ฟัน 2 ซี่ กระดูกชิ้นเล็ก 1 ชิ้น และพบกางเกงขาสั้นสีแดงดำ เสื้อยืดแขนยาวสีดำแถบแดง โดยมีตำรวจนิติวิทยาศาสตร์ของแขวงจำปาสัก พร้อมนายเตือน ทองด้วง นายพรานชาวลาวที่เป็นผู้พบกระดูกดังกล่าวที่ป่าชายแดน เดินทางมากับคณะด้วย
พ.ต.ต.คำหล้า ชิตถาวร ตำรวจนิติวิทยาศาสตร์ แขวงจำปาสัก เผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กระดูกที่พบเป็นใคร และเป็นกะโหลกชิ้นส่วนของผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่เมื่อทางญาติและเจ้าหน้าที่ไทยต้องการจะนำไปตรวจพิสูจน์โดยละเอียดว่าเป็นผู้สูญหายของไทยหรือไม่ ทางการลาวก็อำนวยความสะดวกให้เต็มที่
เบื้องต้นนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน บิดาของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า เสื้อผ้าที่เห็นนี้ไม่ใช่เสื้อผ้าของ ผอ.อ้อย จึงไม่มั่นใจว่ากะโหลกและกระดูกที่พบเป็นของ ผอ.อ้อย หรือไม่ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวนจะนำไปตรวจพิสูจน์โดยละเอียดก็จะเป็นการดี แม้กะโหลกและชิ้นส่วนที่พบนี้ ผลยังไม่ออกมา ทางตนและญาติก็จะยังคงติดตามค้นหาลูกสาวต่อไปเช่นเดิม.-สำนักข่าวไทย