ศาล รธน. 14 ส.ค. – ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมอ่านคำวินิจฉัยคดีความเป็นรัฐมนตรีของ “เศรษฐา” จากกรณีแต่งตั้ง” พิชิต” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ ไม่ได้มาศาลเอง มอบหมายให้ “นพ.พรหมมินทร์” และฝ่ายอดีต สว. ส่ง “สมชาย” และ “ดิเรกฤทธิ์” มารับฟัง
ตั้งแต่ช่วงเช้า 09.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และลงมติ ในคดีที่ 40 สว. ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ มาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เหตุเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
ขณะที่เวลาประมาณ 15.00 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำวินิจฉัย โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนทุกแผนกมาปักหลักรอทำข่าวจำนวนมาก ท่ามกลางการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย และสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ขณะเดียวกันมีการตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ไว้กลางโถงของอาคาร และตั้งจอทีวีสำหรับเตรียมถ่ายทอดสัญญาณสดระหว่างตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยด้วย
ขณะที่นายเศรษฐาไม่ได้เดินทางมาศาลด้วยตัวเอง โดยมอบหมาย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาฟังคำวินิจฉัย ส่วนฝ่ายผู้ร้องอดีต สว. ได้ส่งนายสมชาย แสวงการ และนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เป็นตัวแทนมารับฟัง
สำหรับแนวทางคำวินิจฉัยมีการวิเคราะห์ไว้ 2 แนวทาง คือ ผลเป็นบวก นายเศรษฐารอดคดี ซึ่งจะไม่กระทบกับเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เดินหน้าบริหารประเทศต่อ แต่มีกระแสข่าวถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี
ส่วนแนวทางที่ 2 เป็นผลลบต่อนายเศรษฐา คือไม่รอด ต้องหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และจะทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ต้องใช้กลไกสภาฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากบัญชีพรรคการเมือง ที่มี สส. 25 คนขึ้นไป ซึ่งในปัจจุบันมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากบัญชีพรรคการเมือง ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร, นายชัยเกษม นิติศิริ จากพรรคเพื่อไทย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค พรรครวมไทยสร้างชาติ นอกจากนี้ยังมีบัญชีจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประชาธิปัตย์ คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์.-สำนักข่าวไทย