ชัวร์ก่อนแชร์ : ความจำไม่ดี ให้กินปลาทู หอยแครง หอยนางรม จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์เรื่องโรงพยาบาลธรรมชาติ มีข้อหนึ่งระบุว่า หากความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครง และหอยนางรม ซึ่งมีธาตุสังกะสี ช่วยสมองได้ เรื่องนี้จริงหรือไม่ ?

🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รศ.ดร.ทพญ.ดุลยพร ตราชูธรรม ประธานหลักสูตรพิษวิทยาและโภชนาการเพื่ออาหารปลอดภัย สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล

จากการแนะนำให้กินสังกะสีจากปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครง และหอยนางรม

ปริมาณเท่านี้ สำหรับผู้ใหญ่ “ได้” เพราะถือเป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่ที่กินได้ต่อวัน

สำหรับเด็กอายุ 1-6 ขวบ และกินปริมาณเท่านี้ ถือว่าเป็นอันตราย

มีงานวิจัยที่บอกว่า “สมดุลระหว่างสังกะสีกับทองแดง” มีบทบาทสำคัญในเรื่องความจำ การเรียนรู้ต่าง ๆ แล้วก็มีรายงานพบว่าผู้ที่กินสังกะสีจากอาหารไม่เพียงพอ มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์เพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น การกินสังกะสีให้เพียงพอก็เป็นแนวทางหนึ่งในการลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ และในเรื่องของความจำด้วย

ปลาทู หอยแครง หอยนางรม มี “สังกะสี” ?

ตามโจทย์ที่ว่ามา ปลาทู 100 กรัม (1 ขีด) จะได้สังกะสีประมาณ 1.95 มิลลิกรัม ฉะนั้นปลาทู 2 ขีด ก็จะมีสังกะสีอยู่ที่ 3.9 มิลลิกรัม

หอยนางรม 100 กรัม (1 ขีด) มีสังกะสี 6 มิลลิกรัม

หอยแครง 100 กรัม (1 ขีด) มีสังกะสี 2.2 มิลลิกรัม

ดังนั้น ถ้าใน 1 วัน กินปลาทูนึ่ง 2 ขีด หอยนางรม 100 กรัม และหอยแครง 100 กรัม ปริมาณสังกะสีรวมที่ได้ก็คือ 12.1 มิลลิกรัม

การกินอะไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ดูที่ตัวสาร จะต้องดูปริมาณด้วย

สำหรับผู้ใหญ่ปริมาณเพียงพอ เพราะวันหนึ่งผู้ใหญ่ (ชาย) ควรจะได้รับสังกะสีประมาณ 10.9 มิลลิกรัม และ ผู้ใหญ่ (หญิง) ควรจะได้รับสังกะสีประมาณ 9.2 มิลลิกรัม

อย่างไรก็ตาม ปริมาณสังกะสีที่กิน ถ้ากินน้อยเกินไปก็เสี่ยงกับการขาด แต่ถ้ากินมากจนเกินไป ก็มีรายงานวิจัยพบว่า ในผู้ที่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมแล้ว ตัวสังกะสีจะถูกปลดปล่อยออกมา แล้วทำลายระบบประสาทได้ เพราะฉะนั้น ถ้ากินสังกะสีมากจนเกินไปก็อาจจะเกิดพิษได้

“เด็ก” ได้รับสังกะสีมากเกินไป ไม่ส่งผลดี ?

เด็กควรจะได้รับสังกะสี เพียงวันละ 4-6 มิลลิกรัม ก็คือประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่เท่านั้นเอง

สำหรับเด็กอายุ 1-6 ขวบ การกินปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครง 1 ขีด หอยนางรม 1 ขีด ถือว่ามากจนเกินไป เพราะปริมาณรวมเกิน 10 มิลลิกรัม

ปริมาณสังกะสี 10 มิลลิกรัม เป็นค่าความปลอดภัยสำหรับเด็กอายุ 1-6 ขวบ ดังนั้น เด็กกินปลาทูวันละ 2 ขีดก็เพียงพอแล้ว

นอกจากปลาทู หอยนางรม หอยแครง อาหารอย่างอื่นก็กินได้ ?

สูตรกินปลาทู 2 ขีด หอยนางรม 1 ขีด หอยแครง 1 ขีด ต้องกินหลายอย่าง และราคาค่อนข้างสูงด้วย จึงขอแนะนำว่ากินอย่างใดอย่างหนึ่ง และ/หรือ กินตับหมู

ผู้ใหญ่ ตับหมูวันละ 100 กรัม (1 ขีด) เด็ก ตับหมูวันละ 50 กรัม (ครึ่งขีด) เพียงเท่านี้ก็พอแล้วสำหรับความต้องการสังกะสีในแต่ละวัน

กรณีไม่กินเนื้อสัตว์ (กินมังสวิรัติ และ/หรือ กินเจ) ขอแนะนำเป็นกลุ่มเมล็ดฟักทอง ซึ่งให้สังกะสีสูงเหมือนกัน โดยกินเมล็ดฟักทองวันละประมาณ 120 กรัม ก็จะได้รับสังกะสีเพียงพอกับความต้องการของผู้ใหญ่ ถ้าของเด็กก็ครึ่งหนึ่ง (ประมาณ 60 กรัม)

สิ่งสำคัญก็คือการกินหลากหลาย เช่น วันนี้กินตับหมู พรุ่งนี้กินเมล็ดฟักทอง วันถัดไปกินปลาทู และ/หรือ หอย

สรุปว่าข้อมูลเรื่องนี้ยังไม่ควรแชร์ต่อ ถึงแม้จะมีข้อมูลบางส่วนถูก แต่ว่าข้อมูลบางส่วนถ้าแชร์ออกไปอาจทำให้เข้าใจผิด แล้วไปปฏิบัติตามก็จะไม่ได้ผล และเกิดผลเสียตามมาด้วย

กินอาหารอย่างพอดี หลากหลาย ถูกสุขอนามัย ย่อมให้ประโยชน์ในการเสริมสร้างและลดความเสี่ยงได้

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : ความจำไม่ดี ให้กินปลาทู หอยแครง หอยนางรม จริงหรือ ?