กรุงเทพฯ 30 ส.ค.- พนักงานการท่าเรือฯรวมตัวแจ้ง ปอท.เอาผิดรองอธิบดีและผู้บัญชาการกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังออกมาให้ข่าวพบ 11 ผู้บริหารการท่าเรือทุจริตการเบิกจ่ายค่าล่วงเวลามูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย และอดีตพนักงานเกือบ 100 คน พร้อมทนายความ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ โดยพันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล รองอธิบดี ดีเอสไอ และพันเอกพินิจ ตั้งสกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา แถลงข่าวว่า ดีเอสไอได้ส่งสำนวนคดีต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการพิจารณาความผิดของผู้บริหารการท่าเรือฯ 11 คน ประกอบด้วย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ 1 คน / ผู้อำนวยการกอง 9 คน / และผู้อำนวยการสำนักอีก 1 คน โดยระบุว่าพบมีการทุจริตการเบิกจ่ายค่าล่วงเวลา หรือ โอที ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย มูลค่าความเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท
นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ ระบุว่า การแถลงข่าวของดีเอสไอ ทำให้ภาพลักษณ์ของพนักงานการท่าเรือฯ เสียหาย ทั้งที่ยังไม่มีการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง โดยจะแจ้งความให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่มีการนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ขณะที่พนักงานการท่าเรือฯ ยืนยันว่า ไม่มีการโกงค่าล่วงเวลาตามที่เป็นข่าว แต่กลับถูกการท่าเรือฯ จ่ายเงินค่าล่วงเวลาไม่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งต้องจ่ายเป็นรายชั่วโมง แต่กลับเหมาจ่ายแทน ทำให้พนักงานการท่าเรือได้รับความเดือดร้อนมานานนับ 10 ปี วันนี้จึงมาแจ้งความทวงสิทธิ์และศักดิ์ศรีคืน
ทั้งนี้ พนักงานการท่าเรือฯ เคยฟ้องศาลแรงงาน เรียกเงินชดเชยกรณีจ่ายค่าล่วงเวลาไม่เป็นไปตามกฎหมายแรงงาน จนชนะคดีในชั้นศาลฎีกา และการท่าเรือฯ ต้องจ่ายเงินจำนวนกว่า 300 ล้านบาท ให้กับพนักงานกว่า 200 คน.-สำนักข่าวไทย