กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – ตำรวจเรียกไกด์เวียดนามให้ปากคำ เพราะหนึ่งในผู้เสียชีวิตใช้ให้ไกด์ไปซื้อ “ยางูหมายเลข 7” ด้านไกด์ยืนยันไม่รู้เรื่องการวางยา เบื้องต้นตำรวจนำ “ยางูหมายเลข 7” ส่งตรวจสอบ
คดีวางยาสังหารหมู่ 6 เวียดนาม ตำรวจเปิดผังในห้องพักและวงจรปิดหน้าห้องพักของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 คน ยืนยันชัดการสืบสวนไม่พบคนไทยเกี่ยวข้อง เพราะช่วงบ่ายของวันเกิดเหตุ คือ 15 ก.ค. คนในห้องพักสั่งอาหาร 2 รอบ รอบแรกสั่งข้าวผัด 5 จาน ต้มยำกุ้ง 4 จาน ผัดผักรวม 4 จาน ผัดผักบุ้ง 1 จาน และชา 2 กระติก พร้อมแก้วน้ำชา 6 ใบ ส่วนรอบ 2 สั่งข้าวผัดเพิ่ม 1 จาน แต่ประเด็นอยู่ที่รอบแรกที่มีการสั่งน้ำชา ตอนนั้นพนักงานนำชุดกระติกชา แก้วน้ำร้อน ไปส่ง พร้อมเสนอจะชงชาให้ แต่นางสาวเชรีน ชอง ที่อยู่ในห้องคนเดียว แสดงสีหน้าเคร่งเครียดและยืนยันว่าจะชงเอง
จากนั้นวงจรปิดจะเห็นว่าเพื่อนร่วมชาติอีก 5 คน ทยอยขนกระเป๋าเดินทางเข้าไปในห้อง และตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาไม่พบว่ามีใครออกมาจากห้องอีกเลย
ส่วนการตรวจแก้วน้ำชา 6 ใบ และกาน้ำชา 1 ใบ พบสารไซยาไนด์ โดยกาน้ำชา 1 ใบนี้ มีถุงชา 1 ถุงที่มีสารไซยาไนด์ และยังพบถุงชาอีก 1 ถุงในถังขยะ จากพยานหลักฐานเชื่อว่านางสาวเชรีน หญิงชุดเขียวในวงจรปิด อาจเป็นคนวางยาไซยาไนด์ เหตุเพราะนางสาวเชรีนได้ไปชวนสามีภรรยาที่อยู่ในกลุ่มนี้ ลงทุนสร้างโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น เป็นเงิน 10 ล้านบาท แต่เมื่อสามีภรรยาลงทุนไปแล้วกลับไม่พบความคืบหน้าในทุกเรื่อง ทวงถามก็ไม่ได้รับคำตอบ ทำให้เกิดการนัดหมายบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเคลียร์หนี้
นอกจากนางสาวเชรีน ยังมีอีกคนที่ต้องสงสัยรู้เห็นการวางยา คือ นางสาวถิ เหวียน เฟือง หล่าน หนึ่งในคนที่เสียชีวิต เพราะเป็นนายหน้าชักชวนระดมทุน
ส่วนใครเสียชีวิตก่อนหลัง ตำรวจยังไม่ชี้ชัด แต่ที่แน่ๆ ประเด็นที่กลุ่มคนทั้งหมดไม่สงสัยว่ามีการวางยา เพราะสารไซยาไนด์เมื่อถูกนำไปผสมกับน้ำจะไม่มีรสชาติ ไม่มีกลิ่น ออกฤทธิ์เร็ว บางครั้งไม่ถึง 5 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์จะทราบได้ เพราะผิวของผู้ได้รับสารไซยาไนด์จะออกสีชมพู ลมหายใจมีกลิ่นอัลมอนด์
ส่วนอีกหลายปมที่ตำรวจต้องการไขให้กระจ่าง มีทั้งผู้ก่อเหตุไปหาซื้อไซยาไนด์มาจากไหน เมื่อวาน (17 ก.ค.) จึงมีการเชิญอดีตสามีของนางสาวถิ เหวียน เฟือง หล่าน มาให้ข้อมูลว่ารู้เห็นกับการวางยาหรือไม่ เพราะเป็นคนสุดท้ายที่นางสาวถิ เหวียน เฟือง หล่าน วิดีโอคอลด้วยก่อนเสียชีวิต
ด้านไกด์เวียดนามถูกเรียกมาให้ปากคำเช่นกัน เพราะตำรวจสืบทราบว่านางสาวถิ เหวียน เฟือง หล่าน ให้ไกด์ไปซื้อยางูหมายเลข 7 แต่ไกด์ยืนยันไม่รู้เรื่องการวางยา ส่วนยางู เป็นยารักษาอาการปวดไขข้อ กลุ่มไกด์ทัวร์ที่มีลูกทัวร์เป็นคนจีนหรือเวียดนาม รู้จักยาตัวนี้ดี แต่เบื้องต้นตำรวจไม่คลายสงสัย จึงนำยาดังกล่าวส่งไปตรวจสอบ
ชันสูตร 6 เวียดนามครบแล้ว รอญาติติดต่อรับศพ
ล่าสุด รองศาสตราจารย์นายแพทย์ ฉันชาย สิทธิพันธ์ ผอ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยความคืบหน้าการชันสูตรศพ 6 เวียดนาม ยืนยันว่าแพทย์ผ่าชันสูตรครบทั้ง 6 ศพ และได้เก็บตัวอย่างในการตรวจสารไซยาไนด์ในร่างกายไว้แล้วเช่นกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานพนักงานสอบสวนเเละทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่ายังสงสัยประเด็นใด หรือต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มหรือไม่ หากไม่สงสัยญาติสามารถติดต่อสถานทูตเวียดนามและสถานทูตสหรัฐ เพื่อนำเอกสารมาขอรับศพได้เลย อย่างไรก็ตาม ในส่วนการเปิดเผยผลชันสูตรโดยละเอียด ขอหารือกับทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความรอบคอบและรัดกุม.-สำนักข่าวไทย