กทม. 17 ส.ค. – ฝากขัง “ไกด์เถื่อนเวียดนาม” ทำหน้าที่มัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตำรวจยันไม่เกี่ยวข้องคดีฆาตกรรมเวียดนาม 6 ศพ เพียงรู้จัก 1 ใน 6 เวียดนาม
พนักงานสอบสวน สน.พญาไท คุมตัวนายฟาน หง็อก หวู อายุ 35 ปี ไกด์เถื่อนชาวเวียดนาม ไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังในข้อหาประกอบการธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำหน้าที่มัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หลังตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับกรมการท่องเที่ยวบุกเข้าจับกุมไกด์เถื่อนคนนี้ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยรางน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อเช้าวานที่ผ่านมา
โดยขณะคุมตัวไปฝากขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายฟาน ว่าเกี่ยวข้องหรือรู้จักชาวเวียดนาม 6 คนที่เสียชีวิตจากการถูกวางยาพิษไซยาไนด์ในแก้วชาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาหรือไม่ แต่นายฟานมีสีหน้าเคร่งเครียด ไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน แต่เมื่อสื่อมวลชนถามว่าหลังถูกดำเนินคดีดังกล่าวแล้วจะต้องถูกผลักดันกลับประเทศ กังวลหรือไม่ เจ้าตัวตอบเพียงว่า “อยากกลับบ้าน” แล้วไม่พูดอะไรอีก
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนพบว่านายฟานเข้ามาอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 10 ปีแล้ว และหันมาเป็นไกด์เถื่อน ไม่มีใบอนุญาตให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง และจากการสืบสวนยังพบว่านายฟานได้กู้หนี้หลักแสนกับบริษัท โดยการนำพาสปอร์ตไปค้ำประกัน เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย แต่ก็ไม่พอ ส่วนรายรับที่ได้ก็มีทั้งจากบริษัทและจากนักท่องเที่ยวที่พามาเที่ยว
ส่วนข้อมูลที่ก่อนหน้านี้มีการระบุว่านายฟานเป็นพยานในคดีฆาตกรรมชาวเวียดนาม 6 ศพนั้น พนักงานสอบสวน สน.พญาไท บอกว่า ได้รับข้อมูลจากตำรวจท่องเที่ยวชุดจับกุมว่า นายฟานไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับคดีชาวเวียดนาม 6 คน เพียงแต่นายฟานเป็นไกด์ชาวเวียดนามในไทยที่ทำงานมานาน ทำให้รู้จักกับ 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต แต่ไม่ได้เป็นไกด์นำเที่ยวที่พาทั้ง 6 คนเข้ามาในประเทศไทยแต่อย่างใด และก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมดังกล่าวด้วย ส่วนที่ไปเป็นพยานให้ปากคำกับตำรวจ สน.ลุมพินี ก็ไม่ได้ไปในฐานะไกด์นำเที่ยว แต่ไปในฐานะที่ 1 ใน 6 ชาวเวียดนามที่รู้จักกัน ให้ช่วยเช็คว่าคนที่เหลือเข้าพักที่โรงแรมที่เกิดเหตุหรือยัง นายฟานจึงขับรถมาดู พบว่าเข้าพักเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้เกี่ยวอะไรอีก
สำหรับคดีฆาตกรรมชาวเวียดนาม 6 คน เบื้องต้นผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จากพยานวัตถุต่างๆ พบสารไซยาไนด์ในกระเป๋าเดินทางของนางเชอรีน ชอง อายุ 56 ปี ผู้ต้องสงสัย ในแก้วชา และกาน้ำชา และยังไม่พบลายนิ้วมือแฝงของบุคคลอื่นที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง นอกเหนือจากผู้เสียชีวิตทั้ง 6 คน ดังนั้นหลังจากทำสำนวนแล้วเสร็จ คาดว่าพนักงานสอบสวนก็จะมีความเห็นให้จำหน่ายคดี เนื่องจากผู้ต้องหาเสียชีวิต .-420-สำนักข่าวไทย