รื้อย้ายบ้านชุมชนย่านกรุงธนฯ พัฒนาริมฝั่งเจ้าพระยา

กทม.28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯกทม.ติดตามการรื้อย้ายบ้าน ในชุมชนย่านสะพาน กรุงธนฯ รุกล้ำแนวพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 


นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนายสาโรจน์ สามารถ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม.ลงพื้นที่ติดตามการรื้อย้ายบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจและชุมชนราชผาทับทิม โดยมีนายบรรลือ สุกใส ผู้อำนวยการเขตดุสิต พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตดุสิต สำนักการโยธา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ บริเวณชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ (ศาลเจ้าแม่ทับทิม) เชิงสะพานกรุงธน เขตดุสิต


รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า  กทม.ได้ดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในระยะทางทั้ง 2 ฝั่งความยาวประมาณ 14 กิโลเมตร มีบ้านเรือนประชาชนรุกล้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 282 หลังคาเรือน เป็นบ้านเรือน 273 หลัง ท่าเทียบเรือและโป๊ะ 9 แห่ง แบ่งเป็นชุมชนที่มีบ้านเรือนรุกล้ำทั้งหมด 14 ชุมชน ซึ่งชุมชนที่ให้ความร่วมมือกับ กทม.และดำเนินการรื้อย้ายออกไปหมดเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ชุมชนปากคลองบางเขนใหม่11หลัง ชุมชนท่าเรือเกียกกาย 2หลัง ชุมชนเขียวไข่กา20 หลัง ชุมชนวัดเทวราชกุญชร 12 หลัง ชุมชนวัดคฤหบดี 5หลัง ชุมชนวัดฉัตรแก้วจงกลณี 8 หลัง และซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/1 1 หลัง 


ส่วนชุมชนที่รื้อย้ายออกไปแล้วบางส่วน ได้แก่ ชุมชนวัดสร้อยทอง 10 หลัง รื้อย้ายแล้ว 7 หลัง ชุมชนสีคาม17หลัง รื้อย้ายแล้ว 3หลัง ชุมชนมิตตคาม 2/ 59 หลัง รื้อย้ายแล้ว 5 หลัง สถานีดับเพลิงบวรมงคล 5 หลัง รื้อย้ายแล้ว 3 หลัง โดยรวมแล้วขณะนี้สามารถดำเนินรื้อย้ายบ้านแล้วทั้งหมด 83 หลัง โดยวันนี้มาติดตามการรื้อย้ายบ้านรุกล้ำบริเวณชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ ซึ่งมีบ้านรุกล้ำอยู่ 30 หลังคาเรือน รื้อย้าย 3 หลังคาเรือนและชุมชนราชผาทับทิม ซึ่งมีบ้านรุกล้ำอยู่ 20 หลังคาเรือน รื้อย้าย 2หลังคาเรือน  โดยจะดำเนินการรื้อย้าย 5 หลังแรกให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ 

ทั้งนี้  ขอบคุณประชาชนในชุมชนที่ให้ความร่วมมือกับ กทม. ดำเนินการรื้อย้ายบ้านเรือนที่รุกล้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาออกไปเพื่อร่วมมือปรับภูมิทัศน์บริเวณริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดและสวยงามต่อไป .-สำนักข่าวไทย           

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง