14 ก.ค. – ตำรวจเร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ร่างหญิงที่พบบริเวณป่ารกร้างริมทาง ว่าเป็นหญิงชาวจีนที่หายตัวไปหรือไม่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ก่อเหตุ พร้อมประสานสถานทูตจีนช่วยติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ
การพบร่างผู้เสียชีวิต บริเวณป่ารกร้างริมทาง ใกล้กับหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบางพระ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นนางสาวเหยียน หญิงชาวจีนที่หายตัวไป และถูกฆาตกรรม โดยชายชาวจีน เนื่องจากตรวจสอบบริเวณพบแล้วพบชิ้นส่วนและร่องรอยการทำศัลยกรรม ที่ตรงกับประวัติการทำศัลยกรรมของนางสาวเหยียน รวมถึงหลักฐานวงจรปิดที่ปรากฏว่าเป็นเส้นทางที่นายชิงเหยียน ผู้ต้องสงสัยขับรถเข้ามาวนเวียนและจอดรถเอาไว้ ก่อนจะหลบหนีออกนอกประเทศเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม
สภาพศพที่เน่าเปื่อยทำให้เจ้าหน้าที่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นร่างของนางสาวเหยียน หรือไม่ จึงจำเป็นต้องนำร่างส่งให้กับนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ตรวจสอบพันธุ์กรรม หรือดีเอ็นเอ เปรียบเทียบกับญาติและคราบเลือดที่เก็บได้จากรถยนต์ที่ผู้ต้องสงสัยเช่าไป รวมถึงคราบเลือดภายในบ้านพักย่านสุขุมวิท ที่พบคราบเลือดที่อ้างน้ำและที่นอน พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าว่าอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 วัน ในการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ก่อนที่จะนำผลไปประกอบสำนวนของพนักงานสอบสวน สน.บางรักเพื่อออกหมายจับผู้ก่อเหตุ
ด้านพลตำรวจตรีสุพิไชย ลิ้มศิวะวงศ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่าขั้นตอนในการตรวจพิสูจน์พันธุกรรมยืนยันอัตลักษณ์บุคคล ยังไม่สามารถสรุปผลได้ภายในวันนี้ เนื่องจากสภาพศพที่พบในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ค่อนข้างเน่าเปื่อยจำเป็นต้องหาชิ้นเนื้อส่วนที่สมบูรณ์ที่สุด และไขกระดูกต้นขาของร่างผู้เสียชีวิต นำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ของญาติผู้สูญหายว่าตรงกันหรือไม่ โดยจะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์สามารถรู้ผล แต่ส่วนที่สามารถยืนยันได้ใกล้เคียงที่สุดในขณะนี้คือชิ้นส่วนและร่องรอยการทำศัลยกรรมของศพที่ตรงกับผู้สูญหาย ส่วนนี้ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มองว่าหากจำเป็นต้องนำไปใช้ประกอบสำนวนออกหมายจับสามารถนำไปใช้เบื้องต้นได้ก่อน แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในคดี
ส่วนสาเหตุการฆาตกรรมตำรวจยังคงตั้งไว้ 2 ประเด็น คือเรื่องชู้สาว และประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะจากหลักฐานพบทั้งคู่จับมือกัน รวมทั้งการนำโทรศัพท์ของหญิงชาวจีนโอนเงินซื้อของที่มาเก๊า เบื้องต้นตำรวจได้ประสานทางสถานทูตเพื่อติดตามตัวมาสอบปากคำระหว่างรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรมสำนักข่าวไทย ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากทางสถานทูตจีน ได้เข้าพบผู้กำกับการ สน.บางรัก เพื่อประสานข้อมูล และขอให้พนักงานสอบสวน สน.บางรัก เจ้าของสำนวนคดี ออกหนังสือหนังสือรายงานผลการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ซึ่งทางสถานทูต จะนำรายงานการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ส่งต่อไปยังตำรวจจีนเพื่อให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยมาดำเนินคดี หลังญาติผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ในการดูแลของทางสถานทูต และเมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ญาติของผู้เสียชีวิต ได้ร้องเรียน และแจ้งความประสงค์ดำเนินคดีอาญากับผู้ต้องสงสัยชายชาวจีน ต่อสถานทูตจีนประจำประเทศไทย
ด้านนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ยังระบุอีกว่า ทางการจีน ซีเรียสกับคดีคนจีนกระทำกับคนจีนในประเทศไทยอย่างมาก ซึ่งคดีนี้ก็เช่นเดียวกัน ทางการจีนต้องการดำเนินคดีกับคนของเขาด้วยอัตราโทษสูงสุด ซึ่งคดีนี้อาจมีโทษสูงถึงประหารชีวิต.-สำนักข่าวไทย