fbpx

ปคบ.ทลายแหล่งผลิตเครื่องสำอางกรอกมือ

13 ก.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม สสจ.ปทุมธานี ทลายแหล่งผลิตเครื่องสำอางกรอกมือส่งขายทั่วประเทศ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
 

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ., สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี โดย นายแพทย์ภุชงค์ ไชยชิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ปฏิบัติการทลายแหล่งผลิตเครื่องสำอางที่ใช้กับผมและหนังศีรษะ ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง วัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์ที่ใช้ผลิต รวม 69 รายการ 283,200 ชิ้น มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท


สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับการประสานจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี แจ้งเบาะแสจากประชาชนให้ตรวจสอบบ้านพักอาศัยที่ลักลอบผลิตเครื่องสำอางบำรุงผม ยี่ห้อดัง ซึ่งเป็นที่นิยมใช้ตามร้านเสริมสวย ขายตามท้องตลาด ร้านขายอุปกรณ์เสริมสวย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนติดตามจนทราบถึงสถานที่ลักลอบผลิตสินค้าดังกล่าวจนนำมาสู่การเข้าตรวจค้นในครั้งนี้

ต่อมาวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี นำหมายค้นของศาลจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจค้นบ้านพักอาศัย ในหมู่ที่ 6 ต.บางพูน อ.ปทุมธานี จ.ปทุมธานี พบหญิงอายุ 47 ปี เป็นผู้นำตรวจค้น และรับว่าเป็นเจ้าของสถานที่ ขณะเข้าตรวจค้นพบคนงานจำนวน 4 คน กำลังผลิตเครื่องสำอาง ด้วยการกรอกมือใส่ขวดเพื่อนำออกขายให้กับประชาชน ตรวจยึดของกลาง ได้แก่


  1. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ได้แก่ น้ำมันใส่ผม น้ำมันบำรุงเส้นผม ครีมบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ขจัดรังแค ครีมน้ำนมบำรุงผม ครีมหมักผม ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางบรรจุเสร็จพร้อมขาย จำนวน 29 รายการ รวมกว่า 25,200 ขวด
  2. วัตถุดิบบรรจุอยู่ในถัง 200 ลิตร จำนวน 6 รายการ
  3. อุปกรณ์การผลิต ได้แก่ ขวดเปล่า กระปุกเปล่า ฝา สติกเกอร์ อุปกรณ์ในการผลิตจำนวน 34 รายการ รวมกว่า 258,000 ชิ้น

ตรวจยึดของกลาง รวม 69 รายการ จำนวน 283,200 ชิ้น มูลค่ากว่า 20,000,000 บาท

จากการสอบถาม หญิงอายุ 47 ปี ยอมรับว่า เรียนจบ ม.6 ได้ศึกษาวิธีการผลิตจากคู่สมรส ซึ่งอดีตเคยเป็นเซลขายสินค้าประเภทเครื่องสำอางมาก่อน ต่อมาประมาณปี 2555 จึงทดลองผสมสูตรต่างๆ และทดลองนำออกขายโดยส่งตามร้านเสริมสวย ได้รับการตอบรับดี จึงได้พัฒนาสูตรเรื่อยๆ มา โดยส่งขายตามร้านเสริมสวย มินิมาร์ต ร้านขายอุปกรณ์เสริมสวย รายได้ประมาณ 300,000 บาทต่อเดือน ต่อมามียอดขายมากขึ้น จึงขยายกิจการ โดยมีตัวแทนเสนอสินค้า ปัจจุบันมีเซลออกนำเสนอสินค้าตามสถานที่ต่างๆ 8 คน แบ่งตามภูมิภาค จำนวน 4 สายงาน ทั่วประเทศ ปัจจุบันมีรายได้ในการขายประมาณ เดือนละ 600,00 บาท ปีละประมาณ 7,200,000 บาท มีลูกค้าที่เป็นร้านเสริมสวย ร้านค้า ร้านขายเครื่องสำอาง ทั่วประเทศกว่า 1,500 ราย  

ส่วนการขอเลขจดแจ้งผลิตภัณฑ์ (เลข อย.) ได้ให้โรงงานที่ผลิต ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งโรงงานตั้งอยู่ใน อ.คลองข่อย จ.นนทุบรี และโรงงานซึ่งตั้งอยู่ในเขตสายไหม กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อทางโรงงานจดเลขจดแจ้งแล้ว ก็จะให้โรงงานผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารสำเร็จรูป บรรจุลงในถังพลาสติก จากนั้นนำมากรอกลงขวด กระปุก ติดสติกเกอร์ นำส่งขายให้กับลูกค้าต่อไป


สำหรับผลิตภัณฑ์แฮร์โค้ท สั่งสารตั้งต้นมาจากบริษัทจำหน่ายเคมีภัณฑ์ ย่านบางนา โดยส่งมาเป็นถังขนาด 200 ลิตร จากนั้นตนเองนำหัวน้ำหอมมาผสมเพื่อจำแนกกลิ่น เมื่อได้กลิ่นตามสูตรแล้ว จึงนำออกบรรจุ โดยให้คนงานกรอกลงขวด ติดสติกเกอร์ ออกขาย โดยนอกจากจะมีเซลนำสินค้าไปเสนอขายตามสถานที่ต่างๆ แล้ว ยังมีการเสนอขายผ่านสื่อออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ โดยส่งขายในราคาขวดละ 40 -155 บาท แล้วแต่ชนิดของเครื่องสำอาง

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558

1.ฐาน “ผลิตเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง”ระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ฐาน “ขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 เดือนหรือปรับไม่เกิน20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.ฐาน “ผลิตเครื่องสำอางปลอมฝ่าฝืนมาตรา 27(2) ประกอบมาตรา 29 (1) โดยเป็นเครื่องสำอางที่ใช้ฉลากแจ้งชื่อผู้ผลิต หรือแหล่งผลิตที่ไม่ใช่ความจริง” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.ฐาน “ผลิตเครื่องสำอางปลอมฝ่าฝืนมาตรา 27(2) ประกอบมาตรา 29 (4) โดยเป็นเครื่องสำอางที่แสดงว่าเป็นเครื่องสำอางที่ได้จดแจ้งไว้ซึ่งมิใช่ความจริง” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.ฐาน “ผลิตเครื่องสำอางฉลากแสดงข้อความที่ไม่ตรงต่อความจริง” ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
 
นายแพทย์ภุชงค์ ไชยชิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี เตือนประชาชน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ก่อนจำหน่าย โดยสามารถดูได้ที่ฉลากผลิตภัณฑ์ หรือที่บรรจุภัณฑ์ และควรซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน กรณีซื้อออนไลน์ให้ซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้ว
 
พล.ต.ต.วิทยา  ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. ฝากความห่วงใยมายังประชาชนว่าระมัดระวังและไตร่ตรองให้รอบคอบ ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ควรตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน อย่าหลงซื้อ เพียงเพราะเห็นแก่ราคาสินค้าที่ถูกกว่าท้องตลาดผิดปกติ ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และตรวจสอบเลขจดแจ้ง หรือเลขสารบบอาหารก่อน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยา หากขายในราคาถูกเกินกว่าปกติ ให้ระลึกไว้เสมอว่าท่านกำลังเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อการโฆษณาและได้ของปลอม ของไม่มีคุณภาพ ใช้แล้วอาจเกิดอาการแพ้ และขอเน้นย้ำกับผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหลายว่าอย่านำสินค้าที่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายหรือหลอกลวงผู้บริโภคโดยเด็ดขาด หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ ผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา. – 419 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้