ขบวนการจัดตั้งกับความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้

1 ก.ค. – “รศ.ดร.ปณิธาน” ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ วิเคราะห์เหตุการณ์คาร์บอมบ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลังวานนี้ (30 มิ.ย.67) คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณหน้าแฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา


รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุสถานการณ์ในภาพรวม 2 กลุ่มเหตุการณ์จะสวนทางกัน ขัดแย้งกันในความรู้สึกของประชาชน กลุ่มเหตุการณ์แรกคือความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนโดยทั่วไปของชุมชน ศูนย์การค้า สถานประกอบการ สังคมโดยรวมก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขความรุนแรงต่อพื้นที่เหล่านี้ถือว่าน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นห้างร้าน ตลาด ชุมชน ศูนย์การค้า หรือประชาชนโดยทั่วไป สถิติความสูญเสียลดลงตามลำดับถึงประมาณ 70% ถ้าดูตัวเลขเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 20 ปีที่ผ่านมา ประชาชนรู้สึกได้ถึงความสงบสุขกลับคืนสู่พื้นที่ กำลังเจ้าหน้าที่ได้ถอนกำลังลงจากหลายพื้นที่ การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ได้รับการปรับปรุง ได้รับการตรวจสอบมากขึ้น รวมทั้งนานาชาติ เช่น องค์กรต่างๆ รวมทั้งโอไอซี ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน นำไปสู่การพูดคุยสันติสุข นำไปสู่การพูดคุยเกี่ยวกับการลดความรุนแรงในภาพรวมของกลุ่มต่างๆ รวมทั้งกลุ่มที่ติดอาวุธ

ภาพที่สองขณะนี้สวนทางกันเรื่อยๆ คือความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเครือข่ายกลุ่มบุคคลที่ทำงานให้กับรัฐ ตรงนี้จะรุนแรงมากขึ้น เป็นความผิดปกติ หรือเรียกว่าความปกติใหม่ จะมีการโจมตีเจ้าหน้าที่ อย่างกรณีคาร์บอมบ์เกือบประมาณ 70 ครั้ง ตั้งแต่เริ่มต้นเหตุการณ์ความรุนแรง ลักษณะคล้ายคลึงกัน ที่สถานตำรวจภูธรของหลายจังหวัด จะเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สวนทางกัน แต่ในงานวิจัยหลายชิ้นก็เชื่อว่ายังเชื่อมโยงกันของกลุ่มต่างๆ ที่แบ่งการปฏิบัติการ ส่วนหนึ่งเพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของกลไกภายในของกลุ่มที่ติดอาวุธ และบางส่วนอาจต้องการแสดงผลงาน เพื่อนำไปใช้ในการพูดคุย เจรจาในรูปแบบต่างๆ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นเรื่องของการเปิดเผยและเข้าไปสู่กระบวนการสันติภาพสากล ทั้งหมดเหล่าหนี้เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องไปกวดขัน จับกุมดำเนินคดีในส่วนที่สอง ถอดบทเรียนให้มากขึ้น กรณีคาร์บอมบ์ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่


การก่อเหตุช่วงหลังๆ ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่มีน้อยมาก บอกว่าเป็นการกระทำของคนหน้าขาว คือคนที่ไม่มีประวัติ ไม่มีคดีความ รศ.ดร.ปณิธาน เผยว่า ถ้าดูจากงานวิจัยจะเห็นว่ากลุ่มคนที่เข้ามาปฏิบัติงานแบ่งออกเป็น 3 ส่วน เป็นกลุ่มที่ถูกชักจูงเข้ามา ประวัติอาชญากรรมค่อนข้างน้อย หมุนเวียนเข้ามา มีการฝึกซักซ้อมกันพอสมควร การกระทำแบบนี้ไม่สามารถที่จะทำได้เลย แต่อีกสองส่วนที่สำคัญคือ กลุ่มแนวร่วมที่มีความเคลื่อนไหวในการสนับสนุน และกลุ่มผู้บัญชาการกลุ่มที่เข้าไปดึงเอากลุ่มคนที่อาจจะไม่มีประวัติเข้ามา สองส่วนนี้เกี่ยวข้องกับเงินทุน การประกอบชิ้นส่วนระเบิด ส่วนสั่งการ ส่วนปฏิบัติการ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก