รัฐสภา 21 มิ.ย.-“วราวุธ” รมว.พม. แจงงบการเคหะฯ มีเพียงพอ ดูแลประชาชน พร้อมแจงรายละเอียดงบของสำนักปลัด พม. ยันการจัดสรรงบทำเพื่อประโยชน์ประชาชน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวชี้แจงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ของการเคหะแห่งชาติ ในประเด็น เรื่องรายรับและเงินลงทุนของการเคหะ โดยปัจจุบันการเคหะแห่งชาติมีรายได้เกือบ 5,900 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งค่าเช่า ค่าเช่าซื้อ และรายได้จากการขายอื่น ๆ ส่วนงบลงทุนอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท
นายวราวุธกล่าวว่า งบลงทุนของการเคหะแห่งชาติในปี 68 ตั้งไว้อยู่ที่ 5,317 ล้านบาท แบ่งมาจากรายได้ 1,300 ล้านบาท และจะต้องกู้เพิ่มอีก 3,300 ล้านบาท และใช้จากเงินอุดหนุน 673 ล้านบาท นอกจากการเคหะแห่งชาติน้้น จะต้องแบ่งออกเป็นรายจ่ายเพื่อการดำเนินงาน 2,700 กว่าล้านบาท ซึ่งมีการชำระเงินกู้ที่การเคหะเป็นหนี้อีกประมาณ 1,117 ล้านบาท ดังนั้นเงินลงทุนของการเคหะไม่ได้มีเพียงแค่ พันกว่าล้านบาท แต่มีอยู่ 5,317 ล้านบาท ส่วนข้อสังเกตที่ว่าอยากให้การเคหะฯ นำงบประมาณไปซ่อมโครงการเดิมมากกว่า จริง ๆ แล้วจากการคาดการณ์ความต้องการที่อยู่อาศัยตั้งแต่ปี 66 จนถึงปี 80 มีจำนวนประชากรต้องการที่อยู่ประมาณ 3.4 ล้านครัวเรือน และประมาณ 2 ล้านครัวเรือนเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย จากที่ผ่านมาเรามีความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทเช่า 1.3 บ้านครัวเรือน และต้องการซื้ออยู่ประมาณ 670,000 ครัวเรือน ซึ่งจะเห็นได้ว่าอัตราส่วนที่การเคหะได้สร้างไปกับจำนวนความต้องการอีกประมาณ 2 ล้านครัวเรือนนั้น ทางการเคหะฯ ยังเหลือพื้นที่ที่ต้องตอบสนองต่อความต้องการในราคาที่จับต้องได้ให้กับพี่น้องประชาชนมากพอสมควร
ส่วนที่เป็นห่วงเรื่องอาคารเช่าไม่สามารถสร้างได้ตามเป้าหมายจนทำให้งบที่ได้รับต้องถูกพับไปนั้น นายวราวุธ ระบุว่า ในช่วงที่มีการประมูล และจัดซื้อจัดจ้างเมื่อได้เริ่มดำเนินการนั้น ผู้ประกอบการเกิดปัญหา เรื่องการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามกำหนดจากปัญหาโควิด 19 การเคหะฯ จึงได้เร่งประสานงาน และคอยกำชับติดตามให้การดำเนินการนั้นเป็นไปตามแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หากเป็นไปตามนั้น เราจะขอกันงบไว้ เพื่อใช้ในปีงบประมาณต่อไปได้
นายวราวุธ ยังกล่าวถึง งบในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของการเคหะฯ ปี 68 ทั้งหมด 14 แห่ง โดยงบปรับปรุงซ่อมแซมดังกล่าวเรามีอยู่ 129 ล้านบาท แต่ว่าจะไปหนักอยู่ที่ชุมชนเคหะคลองจั่น เพราะมีพื้นที่สนามกีฬาเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ทางการเคหะฯ ได้รับมาตั้งแต่ตอนแรก และต้องรองรับผู้คนอีกหลายแสนชีวิต ทำให้ต้องทุ่มเงินไปถึง 13 ล้านบาท เพื่อตอบสนองพี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ของการเคหะฯ และพื้นที่ใกล้เคียงด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนแฟลตดินแดงที่เริ่มสร้างไปได้เพียงแค่สองปี และเริ่มมีการชำรุด ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้มีการลงพื้นที่ร่วมกับ สส. ซึ่งได้มีการชี้จุดที่ชำรุดทางการเคหะต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ซึ่งเราจะเร่งซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด ส่วนอัตราค่าเช่าที่แพงนั้น แพงเฉพาะคนที่เข้ามาปัจจุบัน หากอยู่มาตั้งแต่ตอนแรก ค่าเช่าจะไม่มีการเพิ่มแต่อย่างใด แต่ค่าใช้จ่ายส่วนกลางต้องขอความเห็นใจ เพราะในการบริหารจัดการนั้นค่าสาธารณูปโภค และค่าดูแลส่วนกลาง จำเป็นที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายจึงแปลออกมาเป็นค่าส่วนกลางของแต่ละโครงการ
ส่วนกรณีที่นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม อภิปรายเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณสำนักปลัดกระทรวง พม. เกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับฮาร์ดแวร์มากกว่าซอฟต์แวร์ ซึ่งต้องเรียนว่าในงบ ปี 68 สำนักงานปลัด พม.ได้เงิน 1,853 ล้านบาท โดยในงบดังกล่าวเป็นงบบุคลากร 872 ล้านบาท ที่เหลืออีก 980 ล้านบาท เป็นเงินที่ที่มีงบลงทุนอยู่เพียง 152 ล้านบาทเท่านั้น หรือคิดเป็นเพียง 8% จึงต้องเรียนว่าฮาร์ดแวร์ที่ท่านพูดถึงมันรวมถึงงบประมาณที่รวมบุคลากร และงบใช้จ่ายประจำของสำนักปลัด พม. ด้วย จึงทำให้ดูเหมือนเป็นงบของฮาร์ดแวร์ แต่สัดส่วนจริง ๆ มีเพียงแค่ 8% เท่านั้นเอง
นายวราวุธ ยืนยันว่า เงินที่เราได้แบ่งกันใช้ในกระทรวง พม. นั้น เราทำเพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ถ้าหากจะอำนวยความสะดวกใหักับเจ้าหน้าที่ ก็เพื่อเป็นการตอบรับการแก้ไขปัญหาดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.-317.-สำนักข่าวไทย
