สระบุรี 21 ส.ค.-ตำรวจรวบหนุ่มใหญ่ลวงเด็กหญิงวัย 14 ขวบ อนาจาร กลางทุ่งนาในแปลงข้าว
กรณีที่เมื่อเย็นวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายลวงเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ไปทำการอนาจาร กลางทุ่งนาในแปลงข้าว โดยคนร้ายข่มขืนไม่สำเร็จ จากนั้นได้ให้เด็กหญิงอมนกเขา จากนั้นได้ปล่อยตัวกลับในสภาพมอมแมม จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประสบเหตุ และนำตัวส่งกลับบ้าน พร้อมมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีนั้น
วันนี้ พล.ต.ต ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เดินทางมาสอบปากคำ นายไวพจน์ ขันแก้ว อายุ 35 ปีด้วยตัวเอง หลังก่อเหตุลวงเด็กหญิงวัย14 ปี ไปล่วงละเมิดทางเพศและพยายามข่มขืน โดย นายไวพจน์ยอมรับสารภาพว่าได้ลวงเด็กหญิงดังกล่าวมาจากร้านค้า หน้าวัดหนองโดน โดยใช้รถจักรยานยนต์ทำที บอกกับเด็กหญิงดังกล่าวว่า ให้ช่วยถือแกลลอนน้ำมันโดยอ้างว่าจะซื้อน้ำมันไปเติมรถจักรยานยนต์ให้กับน้องสาว และจะพาเด็กหญิงดังกล่าวไปนั่งรถจักรยานยนต์เล่น จนเมื่อเวลา19.00น เมื่อสบโอกาสได้พาเด็กหญิงดังกล่าวไปที่เปลี่ยวบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อพยายามจะข่มขืนแต่ไม่สำเร็จจึงใช้ เครื่องมือช่าง( ประแจแหวน) มาจี้ที่คอเด็กหญิงโดยบอกว่าเป็นมีด ถ้าขัดขืนจะแทงให้ตาย จากนั้นบังคับให้เด็กหญิง อมนกเขา ตนเอง แต่ไม่ทันสำเร็จ เนื่องจากเด็กหญิง ร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งนายไวพจน์ เกรงจะมีชาวบ้านมาพบเห็น จึงผละออกมาและขี่จักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไป
จากนั้น เด็กหญิงได้ เดินโซซัดโซเซ ตามร่างกายเปรอะเปื้อนโคลน โชคดีไปพบ สิบตำรวจตรี จักรกฤช ชูวงษ์ ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สภหนองโดน ที่บังเอิญผ่านไปบริเวณดังกล่าว จึงพาเด็กหญิงมาส่งที่บ้านพร้อมทั้งสอบถามจนทราบว่ารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ มีลักษณะเด่นคือเบาะสีเหลืองและมีพวงมาลัยแขวนอยู่ที่แฮนด์ จึงตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดจนพบคนร้ายและนำกำลังไปจับกุมได้ที่บ้านพักในอำเภอหนองโดยดังกล่าว พล.ต.ต ชัยรัตน์ เปิดเผยว่า คนร้ายรายนี้เคยถูกจำคุกในข้อหาเสพยาเสพติด ในพื้นที่อำเภอหนองโดนและชิงทรัพย์ในพื้นที่อำเภอบ้านหมอ ถูกจำคุก 4 ปี 9 เดือน จากนั้นได้รับการอภัยโทษ เมื่อปี2559 จนกระทั่งหวนกลับมาก่อเหตุดังกล่าว ด้าน พนักงานสอบสวนได้นำตัว นายไวพจน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหาหนักเสพยาเสพติด ข่มขืนกระทำชำเรา พรากผู้เยาว์อายุ ต่ำกว่า 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร ส่งตัวดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย