fbpx

ญี่ปุ่นออกกฎหมายดูแลเด็ก

โตเกียว 6 มิ.ย. – รัฐสภาญี่ปุ่นออกกฎหมายที่เพิ่มความสนับสนุนแก่เด็กและแก่ครอบครัวที่เลี้ยงดูเด็ก รวมถึงการเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรรายเดือน และการให้วันลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร หวังจัดการปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง


เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตามกฎหมายใหม่นี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดตั้งโครงการระดมทุนใหม่สำหรับการเลี้ยงดูเด็ก เริ่มในปีงบประมาณ 2569 ด้วยเบี้ยประกันสุขภาพรายเดือนที่สูงขึ้น ยกเลิกการจำกัดรายได้ของครัวเรือนในการได้รับเบี้ยเลี้ยงสำหรับเด็กตั้งแต่เดือนธันวาคมปีนี้ ครัวเรือนต่างๆ จะสามาถฝากดูแลเด็กในสถานบริบาลและรับเลี้ยงเด็กได้ ไม่ว่าพ่อแม่หรือผู้ปกครองต้องทำงานหรือไม่ก็ตาม และจะมีการเพิ่มเบี้ยเลี้ยงช่วงลาดูแลเด็กด้วย

นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนจะรวบรวมเงิน 600,000 ล้านเยน (ราว 140,688 ล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2569 ภายใต้โครงการใหม่ดังกล่าวที่มีชื่อว่า “กองทุนอุปถัมภ์บุตร” และจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 1 ล้านล้านเยนในปีงบประมาณ 2571 เงินทุนที่จะใช้เพื่อการนี้ รัฐบาลมีแผนเพิ่มค่าประกันสุขภาพประชาชนที่จ่ายโดยบุคคลและธุรกิจ เพื่อนำมาจัดตั้งระบบกองทุนสนับสนุนซึ่งจะเริ่มบริหารเป็นขั้น ๆ ไปเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2569


ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบในที่ประชุมวุฒิสภาเต็มคณะเมื่อวานนี้ ด้วยเสียงสนับสนุนจากพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลญี่ปุ่น หวังจัดการกับปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง หลังจากข้อมูลล่าสุดพบว่า อัตราเจริญพันธุ์โดยรวม และจำนวนทารกแรกเกิดในปี 2566 ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยจำนวนทารกญี่ปุ่นที่เกิดเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 727,277 คน ลดลง 43,482 คนจากปีก่อนหน้า และมีจำนวนน้อยที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติในปี 2442

รัฐบาลญี่ปุ่นมองว่า อัตราเกิดที่ลดลงเรื่อยๆ นี้กำลังเข้าขั้นวิกฤต และเห็นว่า ช่วงเวลาก่อนปี 2573 ซึ่งคาดกันว่าในเวลานั้นประชากรวัยหนุ่มสาวจะลดฮวบ เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะพลิกกลับแนวโน้มอัตราการเกิดที่ลดลงได้.-815.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง