นครปฐม 26 ต.ค. – กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเจี๊ยบเขียวใน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม สามารถผลิตกระเจี๊ยบเขียวได้อย่างมีคุณภาพ มีบริษัทส่งออกมาทำสัญญารับซื้อ จึงมีรายได้แน่นอน ไม่ว่าราคาตลาดจะเป็นอย่างไร
พื้นที่ 6 ไร่ ของคุณดำรง วุฒิอนันต์ชัย หนึ่งในกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเจี๊ยบเขียว บ้านดอนขุนวิเศษ ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เก็บผลผลิตได้วันละประมาณ 30 กิโลกรัม กลุ่มเกษตรกรทำเกษตรในรูปแบบ Contract Farming กับบริษัทผู้ส่งออก ทำสัญญาเป็นรายปี ส่งผลให้ราคาขายคงที่ ปีนี้กิโลกรัมละ 24 บาท ขณะที่ราคาตลาด หากเป็นหน้าแล้ง ผลผลิตน้อย ราคาจะสูงถึง 30 บาท แต่ถึงหน้าฝน ผลผลิตล้นตลาด ราคาเหลือกิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น ประเทศที่รับซื้อส่วนใหญ่ คือ ญี่ปุ่น แต่กำลังขยายไปยังยุโรป ผลที่จะเก็บขายต้องมีลักษณะยาวตรงประมาณ 8-10 เซนติเมตร ไม่มีแมลงกัดกิน และต้องเป็นแปลงที่ได้รับใบรับรอง GAP หรือ Q คือ ปลอดภัยจากสารพิษ ใช้สารเคมีได้ แต่ต้องเว้นระยะการเก็บผลผลิต
เกษตรอำเภอกำแพงแสน กล่าวว่า สำนักงานเกษตรอำเภอฯ เข้ามาให้ความรู้เรื่องการบำรุงต้นด้วยการให้ปุ๋ยอินทรีย์เสริมการให้ปุ๋ยเคมี เพื่อลดต้นทุนการผลิต การใช้น้ำส้มควันไม้ไล่แมลง เพื่อลดการใช้ยาปราบศัตรูพืช ซึ่งการผลิตพืชผักปลอดภัย เป็นยุทธศาสตร์ทั้งของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และของจังหวัดนครปฐม ก้าวต่อไปคือ ส่งเสริมการผลิตแบบอินทรีย์ คือ งดใช้สารเคมีทั้งหมด
การปลูกพืชผักที่ให้ผลตอบแทนดี ตรงกับแนวทางของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งต้องการให้ปลูกทดแทนการทำนาที่ราคาตกลงทุกวัน
กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชอายุสั้น หลังจากเพาะเมล็ดเพียง 45 วันก็เก็บขายได้ อายุการเก็บเกี่ยว 2 เดือนครึ่ง ซึ่งหากสามารถส่งเสริมการทำ Contract Farming แบบที่สำนักงานเกษตรอำเภอกำแพงแสนทำได้ จะทำให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคงยิ่งขึ้น. – สำนักข่าวไทย