กรุงเทพฯ 19 ส.ค.-ปภ.รายงานมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 9 จังหวัด และได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย คลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ หย่อมความกดอากาศต่ำ พายุโซนร้อนตาลัส และพายุโซนร้อนเซินกา ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม – 18 สิงหาคม 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 44 จังหวัด 302 อำเภอ 1,724 ตำบล 14,105 หมู่บ้าน 43 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 609,425 ครัวเรือน 1,898,322 คน ผู้เสียชีวิต 34 ราย เบื้องต้นบ้านเรือนเสียหาย 2,574 หลัง แยกเป็น เสียหายบางส่วน 2,559 หลัง เสียหายทั้งหลัง 15 หลัง ถนน 2,401 สาย คอสะพาน 111 แห่ง สะพาน 207 แห่ง ฝายและทำนบ 8,753 แห่ง พื้นที่การเกษตรสำรวจความเสียหายแล้ว 1.51 ล้านไร่ พื้นที่ประมง 149.41 ไร่ ปศุสัตว์ 30,248 ตัว ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 38 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด แยกเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ นครพนม ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี และภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา รวม 23 อำเภอ 143 ตำบล 890 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,627 ครัวเรือน 98,595 คน จุดอพยพ 12 จุด 953 ครัวเรือน 3,509 คน
นายฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 12 – 18 สิงหาคม 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 8 จังหวัด แยกเป็น ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ ตรัง สตูล นครศรีธรรมราช และกระบี่ ภาคเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร น่าน และเชียงราย ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ ตราด รวม 18 อำเภอ 60 ตำบล 206 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,324 ครัวเรือน 23,625 คน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 3 จังหวัด ได้แก่ สตูล พิจิตร และเชียงราย รวม 10 อำเภอ 37 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,921 ครัวเรือน 13,667 คน
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ปภ.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมกำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ส่วนจังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัยให้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย ควบคู่กับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยเชื่อมโยงการระบายน้ำในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.-สำนักข่าวไทย