“ภูมิธรรม” สั่งขุดลอกลำน้ำ-เคลียร์พื้นที่บุกรุก แก้ปัญหาน้ำท่วม

ทำเนียบ 25 พ.ย.- “ภูมิธรรม” สั่งลุยแก้ปัญหาน้ำท่วม เร่งขุดลอกลำน้ำ-เคลียร์พื้นที่บุกรุก พร้อมแผนรับมืออุทกภัยรอบด้าน เตรียมเสนองบแก้ไขปัญหา-ฟื้นฟูใน ครม.สัญจร 29 พ.ย.นี้


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ได้แถลงถึงผลการประชุม ศปช.ครั้งที่ 4/2567 ว่า เราได้พูดคุยกันตามกรอบเพื่อจะทำงานต่อเหนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องดินถล่มโคลนและอุทกภัยใน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่หนักมากในรอบหลายปี ขณะนี้สภาพอากาศทางภาคเหนือก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และฝนคงจะหมดลงแล้ว ในส่วนของภาคใต้ เท่าที่ได้รับรายงานมา มีพายุที่อยู่ในระดับที่มากกว่าปกติ ขอให้หน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัยที่รุนแรง และขอทางกองทัพให้เข้ามาช่วยเหลือประชาชน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามารับผิดชอบด้วยเช่นกัน

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากความสามัคคี แฃะประสานงานกันอย่างเต็มที่ ทั้งหน่วยราชการที่รับผิดชอบ ทั้งฝ่ายกองทัพและพลเรือน ตนขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือ และทำให้การแก้ไขปัญหาครั้งนี้รวดเร็วประชาชนรู้สึกอุ่นใจ และวางกรอบไว้ว่าจะมีการพูดคุยกันต่อเพราะว่าเรื่องน้ำท่วมเรามองเห็นปัญหา ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่เคยท่วมนั้นไม่กลับมาท่วมอีก และน้ำแล้งก็ไม่ควรที่จะแล้งอีกเช่นกัน


นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในจ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย เราจะแก้ไขปัญหาทั้งหมดนี้ให้คลี่คลาย ก่อนฤดูฝนครั้งหน้าจะมา ทั้งนี้ทุกหน่วยงานจะต้องมาบูรณาการด้วยกัน โดยจะนำข้อสรุปของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทั้งหมดเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรในวันที่ 29 พ.ย. 2567 ที่ จ.เชียงใหม่ โดยคิดว่าจะสามารถทำงานเอกสารและงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณที่จะมาใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาเยียวยาเบื้องต้นให้ได้ภายในเดือนธ.ค. 2567 และได้วางแผนไว้ว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 ถึง 31 พ.ค. 2568 ที่กำลังจะเข้าฤดูฝนนั้น เราก็จะทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเราก็พร้อมที่จะทำงานเต็มที่ตามกรอบระยะเวลานี้

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเรื่องแบ่งขุดลอกลำน้ำเป็น 2 ส่วน มีดังนี้ 1.แม่น้ำปิง 2.แม่น้ำโขง จะมอบหมายให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เข้าไปรับผิดชอบปฏิบัติงาน ทั้งนี้ทางหน่วยงานเลขาคณะกรรมการที่ได้ตั้งขึ้นมาจะเป็นผู้ประสานงาน ทางจังหวัดก็จะเป็นส่วนกลางในการประสานงานด้วยเช่นกันเพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ในการเคลียร์เรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ครัวเรือน ซึ่งรับผิดชอบด้วยกระทรวงมหาดไทย และมีกรมอีกหลายหลายหน่วยงานมารับผิดชอบในเรื่องนี้

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า แม่น้ำปิงไม่น่าเป็นเรื่องยากอะไร เพราะอยู่ในเขตพื้นที่ของเรา และในแต่ละช่วงของแม่น้ำเราก็ได้เก็บข้อมูลโดยละเอียดไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าน้ำหายไปเท่าไหร่ โดยเรายึดหลักว่าการที่น้ำจะอยู่หรือไปต้องมีที่ทางที่ชัดเจน และแม่น้ำปิงกับแม่น้ำโขงจะมีหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศซึ่งต้องมีการพูดคุยกันกับทางประเทศเมียนมาร์ ซึ่งขณะนี้กองบัญชาการทหารสูงสุด ได้รับมอบหมายไปพูดคุยเรียบร้อยแล้ว ทางประเทศเมียนมาร์ไม่มีปัญหา ยินดีให้มีการจัดการเคลียร์ และขุดพื้นที่ร่วมกัน แต่ปัญหาของประเทศเมียนมาร์ คือกำลังอยู่ในสภาวะสงครามทำให้ไม่สามารถมีงบประมาณมาใช้ในการขุดลอกได้ และเราก็ไท่สามารถรอได้ และคิดว่าเราจะใช้งบประมาณทางฝ่ายเรา เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นในประเทศเรา เสียหายมากเป็นหลาย 1,000 ล้านบาท เราจึงอยากใช้งบประมาณตรงนี้ในการช่วยกัน ซึ่งคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรเราตามกระบวนการกฎหมายระหว่างประเทศ


นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องของการบุกรุกลำน้ำ ได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง กับกระทรวงมหาดไทย และทางจังหวัดจะรับผิดชอบ เพราะว่ามีความเกี่ยวข้องกับผู้คน โดยเฉพาะแม่น้ำสายนั้นพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่บุกรุก แต่ประชาชนยังหวาดผวาอยู่ เพราะไม่อยากให้น้ำท่วม แต่การจะไม่ให้น้ำท่วมนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นไปได้หากเราเปลี่ยนกระบวนการจัดการทั้งหมด เพราะว่าแม่น้ำสายนั้นถูกรุกล้ำเข้ามา ซึ่งที่ตนได้พูดคุยเบื้องต้นนั้นไม่ได้มีความขัดข้องอะไร แต่จะต้องหาทางออกที่ประชาชนในพื้นที่สบายใจด้วย เพราะหากประชาชนไม่ย้ายออกให้เราสามารถขุดลำน้ำ และสร้างเขื่อนกันเขตเศรษฐกิจในจังหวัดได้ ปีหน้าก็อาจจะท่วมอีก และค่าใช้จ่ายจะมากกว่างบประมาณที่เราจะมาใช้

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ทุกอย่างทั้งหมดไม่ว่าลำน้ำไหนก็ตามเราจะเคลียร์เรื่องงบดุลต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ ให้เสร็จภายในเดือนม.ค. 2568 จะดำเนินการพร้อมกันทุกส่วน และมาตรการทุกส่วนจะไม่การรอเป็นขั้นตอน ขอให้ดำเนินการทั้งหมดโดยใช้ศปช.ที่เป็นคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเป็นคนดำเนินการประสานงาน ส่วนเฉพาะหน้าในวันนี้ที่เป็นเคสที่มีการพูดคุยกันมานาน ได้มีตัวแทนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตรวจพื้นที่รุกล้ำและได้มีการดำเนินการในขั้นต้น โดยย้ายตัวส่วนที่รุกล้ำตัดออกมาเพื่อที่จะไปใช้ที่ราชพัสดุ ซึ่งถ้าเป็นอย่างงั้นพื้นที่ในตรงนี้ก็จะสามารถเคลียร์และดำเนินการได้

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประสานกับกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับการยกเว้นกฎระเบียบบางประการ เนื่องจากกำลังพลของกองทัพในค่ายหลายแห่งที่ภูมิลำเนาไม่อยู่ในพื้นที่นั้น แต่กลับต้องพักอาศัยในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม ระหว่างน้ำท่วมกำลังพลได้ลงพื้นที่ขุดคูคลองเพื่อป้องกันน้ำท่วมตลอดทั้งวันทั้งคืน อย่างไรก็ตาม มีการร้องเรียนเรื่องข้อระเบียบต่าง ๆ ที่ยังเป็นอุปสรรค ตนจึงได้แจ้งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบ และนายก ฯ ได้มอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากกำลังพลเหล่านี้ทุ่มเทและเสียสละจนสามารถทำให้พื้นที่แม่สายกลับสู่สภาพปกติภายใน 30 วัน

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ได้เสนอทางออกให้กำลังพลในค่ายบันทึกข้อมูล พร้อมให้ผู้บังคับบัญชาในค่ายเซ็นรับรองว่าเป็นกำลังพลในพื้นที่จริง จากนั้นส่งเรื่องต่อให้ ผบ.ทสส. ประสานกระทรวงมหาดไทย เพื่อแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นข้อจำกัด โดยร่วมมือกับกระทรวงการคลังและกรมบัญชีกลาง ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบเรื่องแล้วและจะเร่งดำเนินการให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด 314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย