เชียงใหม่ 29 พ.ย.-“สุริยะ” รมว.คมนาคม เผยเย็นวันนี้เตรียมกลับไปตรวจสอบสาเหตุคานเหล็กก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถล่ม สั่งการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง รวมทั้งตัดสิทธิรับงาน 2 ปี และขอให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการลดชั้นผู้รับเหมา เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานกรณีคานเหล็กก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถล่ม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว โดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย สูญหาย 2 คน บาดเจ็บ 10 คน ได้สั่งการให้อธิบดีกรมทางหลวงที่ขณะนี้มาปฏิบัติงานกับตนเองที่จังหวัดเชียงใหม่ให้กลับไปดูสาเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่วันนี้ และช่วงเย็น ตนเองจะกลับไปตรวจสอบในพื้นที่ ก่อนจะกลับมาปฎิบัติภารกิจต่อที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้ สิ่งที่สำคัญที่เคยเน้นย้ำกับผู้รับเหมามาโดยตลอด คือการปฏิบัติภารกิจด้วยความปลอดภัย แต่หากมีอุบัติเหตุ กรมทางหลวงมีสมุดพกที่จะประเมินตัดคะแนนผู้รับเหมา และประสานกับกรมบัญชีกลางเพื่อลดชั้นผู้รับเหมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกรมบัญชีกลาง ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต บริษัทผู้รับเหมาที่ทำให้เกิดเหตุ จะถูกตัดสิทธิไม่ให้เข้ามารับงาน อาจจะถึง 2 ปี หลังจากนั้น หากปรับปรุงจนดีขึ้นอาจจะคืนสิทธิ ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมคมให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในที่สาธารณะ พร้อมย้ำว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นคนละบริษัทกับที่เคยเกิดอุบัติเหตุก่อนหน้านี้ ส่วนข้อผิดพลาดและสาเหตุ ขอกลับไปตรวจสอบก่อน แต่เมื่อเกิดเหตุ ได้สั่งการให้หยุดการก่อสร้างทันที
นายสุริยะ ยังกล่าวว่า เคยให้สัมภาษณ์และยืนยันว่า ถนนพระราม 2 ต้องการให้แล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนปี 2568 แต่ระยะหลังมีสถานการณ์โควิด จึงทำให้ผู้รับเหมาสามารถขอขยายสัญญาออกไปได้จนถึงสิ้นปี 2568 ถือเป็นสิทธิของผู้รับเหมาที่สามารถทำได้ แต่ได้ขอความร่วมมือเบื้องต้นให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนกรณีที่ประชาชนหวาดกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก เชื่อว่าหากมีมาตรการเรื่องการลดชั้นออกมา จะทำให้ผู้รับเหมาเกรงกลัว และทำให้อุบัติเหตุลดลง
สำหรับการขยายระยะเวลาก่อสร้างให้ผู้รับเหมา อาจจะทำให้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ นายสุริยะ ย้ำว่า ผู้รับเหมาก็มีสิทธิได้รับการขยายสัญญา ไม่ใช่แค่ผู้รับเหมาที่พระราม 2 แต่ผู้รับเหมาทุกโครงการ ส่วนตัวต้องการให้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จโดยเร็ว แต่ก็ต้องเน้นถึงความปลอดภัยเป็นหลักด้วย.-315.-สำนักข่าวไทย