SET Note : Theme ลงทุนใน บจ.ที่มีรายได้จากต่างประเทศ

กรุงเทพฯ 23 พ.ค.- ตลท. เผยแพร่ SET Note “Theme การลงทุนในบริษัทที่มีรายได้จากต่างประเทศ (SET-Global Play)” ปรับพอร์ตลงทุน กระจายความเสี่ยงไปยังภูมิภาคต่างๆ โอกาสรับผลตอบแทนสูง แต่ผันผวนสูงตามการค้าโลก

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแพร่ SET Note ฉบับที่ 4/2567 “Theme การลงทุนในบริษัทที่มีรายได้จากต่างประเทศ (SET-Global Play)” โดยระบุว่าการส่งออกของไทยถือเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด และเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยขยายตัวได้ 3.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ก่อนเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวจากการหดตัวของการส่งออกในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน (%YoY)


จากการพัฒนาฐานข้อมูลการลงทุนและรายได้จากต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนฯ1 โดยทีม SET Research พบว่าบริษัทจดทะเบียนไทยขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆ และมีรายได้จากต่างประเทศเติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2022 บริษัทจดทะเบียนฯ มีรายได้จากต่างประเทศรวม 5.81 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 31% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัทจดทะเบียนฯ และกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศสูงคือ กลุ่มเกษตรและอาหาร กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

พอร์ตการลงทุน SET Global Play ที่เน้นลงทุนในกลุ่มบริษัทที่มีรายได้จากต่างประเทศสูง ช่วยกระจายความเสี่ยงไปยังภูมิภาคต่างๆ อาจให้ผลตอบแทนสูงกว่าผลตอบแทนรวมของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในบางช่วงเวลา แต่ก็มีความผันผวนตามสถานการณ์การค้าโลกและภาคการส่งออกของไทย เช่น


SET-Global Play Large Cap
▪คัดเลือก 20-30 หุ้นขนาดใหญ่จาก 10 sectors ที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศโดยเฉลี่ยสูงถึง 71%
▪ให้ผลตอบแทนรวม 5 ปีย้อนหลังที่ 26.13% และผลตอบแทนรวมระยะสั้น (YTD) ที่ 5.25% และมี dividend yield ที่ 4.10% (ข้อมูล ณ วันที่ 17 พ.ค. 2024)

SET-Global Play Mid & Small
▪คัดเลือก 20-30 หุ้นขนาดกลางและเล็กจาก 10 sectors ที่สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศโดยเฉลี่ยสูงถึง 55%
▪ให้ผลตอบแทนรวม 5 ปีย้อนหลังที่ 79.42% และผลตอบแทนรวมระยะสั้น (YTD) ที่ 12.82% และมี dividend yield ที่ 3.94% (ข้อมูล ณ วันที่ 17 พ.ค. 2024)

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการส่งออกของไทย อาจต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการจากการแข่งขันที่รุนแรง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและความต้องการในตลาดโลก รวมถึงประเด็นในระดับนโยบาย อาทิ การกีดกันทางการค้า มาตรการภาษี และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและมาตรฐานสินค้า เป็นต้น.-516.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย