วินจยย. ฟันเพื่อน สารภาพทำเพราะเมา-โกรธ

ศรีสะเกษ 19 พ.ค. – วิน จยย.รับจ้าง ยอมรับเมาสุรา-โกรธที่เพื่อนชอบดุด่า จึงถือขวานไล่ฟันหัวดับ ในสถานีรถไฟอุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ขณะที่ตำรวจ เตรียมคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พรุ่งนี้ (20 พ.ค.)


คดีนายเหลือ อายุ 53 ปี ถูกนายวิรัตน์ อายุ 52 ปี เพื่อนร่วมวินจักรยานยนต์รับจ้าง ใช้ขวานไล่ฟันหัวหลายครั้งจนเป็นแผลเหวอะสมองไหล เสียชีวิต ภายในสถานีรถไฟอุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (18 พ.ค.) โดยสอบถามพยาน เจ้าของร้านขายของใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า โดยปกติทั้งคู่ เป็นเพื่อนรักกัน ทำงานขี่วินจักรยานยนต์รับจ้างวินเดียวกัน และมักมานั่งดื่มสุราด้วยกันที่โต๊ะด้านหน้าร้าน โดยก่อนเกิดเหตุก็มาดื่มปกติ แต่ทราบภายหลังว่ามีปากเสียงกัน ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะไปเอาขวานที่บ้าน มาไล่ฟันหัวเพื่อนรักจนเสียชีวิต

ล่าสุดเมื่อช่วยบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจคุมตัว นายวิรัตน์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำ ซึ่งยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุมีอาการเมาสุรา ประกอบกับผู้ตายชอบดุชอบด่า เลยก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขณะที่เจ้าหน้าที่ เตรียมนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนในวันนี้ แต่เนื่องจากกำลังตำรวจมีน้อย จึงขอเลื่อนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) จากนั้นจะส่งตัวไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดศรีสะเกษ


ด้านนายบุญมี อายุ 51 ปี เพื่อนของทั้งคู่ ให้ข้อมูลว่าโดยปกติพวกจนจะตั้งวงกินเหล้าด้วยกันเป็นประจำ พูดจากันสนุกสนาน แต่วันที่เกิดเหตุตน ก็นั่งร่วมวงอยู่ด้วยกับทั้งคู่ โดยก่อนจะแยกกัน เกิดปากเสียงทะเลาะวิวาท ตนได้พยายามเข้าไปห้ามปรามทั้ง 2 ให้แยกย้ายกันไป จากนั้นจึงขับรถกลับบ้าน และก็มารู้อีกทีว่าเพื่อน 2 คน ฆ่ากันตายแล้ว โดยปกตินิสัยของผู้เสียชีวิต จะเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด แต่ถ้าดื่มเหล้าเข้าไปแล้ว จะชอบมีนิสัยนักเลง พูดจาหาเรื่องคนอื่น ก็อาจทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ

ขณะที่พี่สาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า ก่อนที่น้องชายจะเสียชีวิตเพียงวันเดียว ได้เข้ามาหาตนที่บ้าน และช่วยเก็บข้าวของ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร และไม่คิดเลยว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอน้อง ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบว่า จะชอบมากินเล่นกับน้องชาย บ่อยครั้ง และอยากจะถามผู้ก่อเหตุว่า เป็นเพื่อนกัน กินเหล้าด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ ส่วนประเด็นที่ว่าผู้เสียชีวิต เวลาเมาชอบไปทำร้ายผู้ก่อเหตุ ทะเลาะกัน เท่าที่รู้ไม่เคยเห็นเลย และยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่