สำนักงาน กกต. 14 พ.ค.- เลขาธิการ กกต. ยืนยันได้ สว. ครบ 200 คน ตามไทม์ไลน์ที่ประกาศ เผยปรับแก้ระเบียบให้ผู้สมัครแนะนำตัวผ่านโซเชียลได้ โอดต้องทำทุกอย่างตามกติกา หากไม่ได้ตามเป้า เป็นเรื่องที่ผู้มีอำนาจต้องแก้กฎหมาย
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงการเลือกสว.ที่กำหนดปฎิทินการเลือกออกมาแล้วว่า กกต.ให้ตนมายืนยันกับประชาชนว่าจะได้สมาชิกวุฒิสภา 200 คนพร้อมสำรองตามกำหนดเวลา 60 วันอย่างแน่นอน และไม่มีข้อกฎหมายใดที่จะประวิงเวลาหรือเลื่อนให้ได้สว. 200 คนออกไปจากไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้
“สิ่งที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะทำให้เลือกสว.ไม่ได้ตามเวลาคือเรื่องคุณสมบัติ หรือขั้นตอนลงคะแนนแล้วไม่ได้ 5 คน หรือคนสมัครน้อย หรือเลือกแล้วกระบวนการเลือกไม่ชอบ กฎหมาย ได้รองรับเอาไว้ทุกเรื่อง เช่นเรื่องคุณสมบัติมีวิธีทำอยู่ 2 เรื่อง คือเอกสารเท็จทั้งใบสมัครและเอกสารประกอบ หากเป็นเท็จจะได้ใบดำ เพิกถอนการรับสมัคร หรือไม่รับสมัคร ซึ่งศาลต้องมีคำสั่งก่อนวันเลือก 1 วัน และถ้าศาลมีคำสั่งไม่ทัน ก็เลือกไปเลยเท่าที่มีในบัญชีที่ผอ.เลือกเป็นคนประกาศ แม้ศาลจะคืนสิทธิ์อย่างไรในตอนหลัง ก็ไม่กระทบในสิ่งที่ทำไปแล้ว ดังนั้น เดินหน้าได้ตลอด หรือหากประกาศให้เป็นผู้สมัครไปแล้ว ไปเจอตอนหลังว่าผิด ลบชื่อได้ทุกชั้นจนถึงระดับประเทศ และกฎหมายรองรับว่าไม่กระทบกับสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วเช่นกัน เพราะฉะนั้นเรื่องคุณสมบัติจึงไม่ประเด็นที่จะทำให้การเลือกตั้งขยายเวลาออกไป ไม่ว่ากรณีใด ๆ” เลขาธิการกกต. กล่าว
ส่วนการร้องคัดค้านเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง ที่อาจจะส่งผลให้การเลือก ล่าช้า นายแสวง กล่าวว่า ระหว่างการนับคะแนนให้สิทธิ์ท้วงได้ หากเห็นว่าคณะกรรมการเลือกทำหน้าที่ไม่ชอบมาพากลหรือนับคะแนนผิดจากสิ่งที่แสดงให้เห็น ซึ่งกรรมการจะวินิจฉัยในวันนั้นทันที ถ้าไม่พอใจก็ไปร้องศาลฎีกาได้ และศาลฎีกาต้องตัดสินให้เสร็จก่อน 1 วัน หากตัดสินไม่เสร็จ ก็เดินหน้าเลือกต่อไป และไม่ผูกพันกับสิ่งที่ดำเนินการไปแล้ว
“เมื่อดูตามกระบวนการต่าง ๆ จึงไม่มีช่องไหนที่จะทำให้การเลือกสว. ครั้งนี้เกินโรดแมปที่วางไว้แม้แต่วันเดียว เราจะได้สว.200 คนแน่นอน การประกาศสว.ต้องประกาศ 200 คน ถ้าได้ 200 คน ตอนนั้นใครมาถูกสอยทีหลังด้วยเรื่องคุณสมบัติ หรือกระบวนการของการทุจริต พูดภาษาชาวบ้านก็ถูกสอย ก็จะมีสำรอง ซึ่งวิธีสำรองคือสำรองกลุ่มละ 5คน ครั้งแรกให้เรียกจากกลุ่มตัวเองก่อน ถ้าหมดก็ไปเรียกจากกลุ่มอื่น โดยใช้วิธีจับฉลากจนเกลี้ยง ถ้าให้สว.มีเท่าที่มีอยู่ แต่ต้องไม่น้อยกว่าจริง 1 คือไม่น้อยกว่า 100 คนและถ้าเวลายังเหลือเกิน 1 ปี ให้กกต.จัดการเลือกให้ครบ ยืนยันประเทศชาติเดินหน้าได้แน่นอน ไม่ต้องกังวล เพราะรัฐธรรมนูญออกมาครอบคลุมทุกประเด็น จึงไม่จำเป็น หรือกังวลว่าจะไม่ได้สว.ภายในเวลา ด้วยเงื่อนไขแบบนี้ กกต. สามารถประกาศได้ 200 คน ตามไทม์ไลน์แน่นอน” นายแสวง กล่าว
ส่วนกรณีเรื่องร้องเรียนการซื้อเสียง เลขาธิการกกต. กล่าวว่า เรื่องการซื้อเสียงเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่ากลั่นแกล้งกันหรือไม่ เราจะพยายามทำให้เร็วที่สุด ส่วนคำร้องเรื่องการทุจริต ส่วนที่มีกันฮั้วหรือจะตั้งกันมานั้น สำนักงานกกต.ทั้งระดับจังหวัด ได้ดูแลความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ว่ามีการดำเนินการ หรือแอบทำหรือไม่ ก็จะตามไปดู อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก แต่ความเคลื่อนไหวอย่างนี้กฎหมายได้ออกแบบ เพื่อป้องกันการทุจริตไว้ในระดับหนึ่งแล้วแต่เราก็ต้องมีมาตรการที่จะดูแลเรื่องเหล่านี้ด้วย ในการที่จะทำให้การเลือกสว.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายแสวง กล่าวว่า ขณะนี้กกต.ได้แก้ไขระเบียบให้ผู้สมัครสว. สามารถแนะนำตัวทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ทั้ง tiktok Facebook YouTube Instagram แต่สาระของการแนะนำตัวให้เป็นไปตามกฎหมายตามแบบสว. 3 เท่านั้น ยืนยันว่าสำนักงานกกต.ทำตามกฎหมาย เพราะกรรมการต้องทำตามกฎหมายและทำเพื่อประชาชน พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร ขอให้ยืนอยู่บนหลักการ มีประโยชน์และเป็นธรรม พร้อมนำมารับฟังปรับปรุงแก้ไขเท่าที่ทำได้ ต้องยอมรับว่าการเลือกสว.ครั้งนี้มีความสลับซับซ้อน สังคมมีความเห็นต่าง มองในสิ่งที่ตัวเองต้องการเห็น สิ่งที่จะทำให้เราเดินไปถึงจุดหมายร่วมกันได้คือกติกา หากมีความคิดเห็นบนพื้นฐานของกติกา เรื่องจะง่าย ยืนยันว่าเป็นไปตามกฎหมาย เป็นธรรม ให้โอกาสคนทั่วไป
สำหรับการปฏิบัติตัวของสื่อ เลขาธิการกกต. ยืนยันว่า ไม่มีระเบียบไหนที่กระทบกับการทำงานของสื่อ ยังคงสัมภาษณ์เรื่องทั่วไปได้ แต่ตัวผู้สมัครห้ามแนะนำตัวเอง ว่าลงสมัครเบอร์นั้นเบอร์นี้ ขณะที่สื่อที่ไปลงสมัครยังคงทำหน้าที่ได้ตามปกติ แต่ต้องไม่แนะนำตัวหรือบอกคุณสมบัติของตัวเอง จึงไม่ได้ลิดรอนการทำงานของสื่อ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลผู้สมัครสว.ได้ 2 ช่องทาง ภายหลังปิดรับสมัครกกต.จะเปิดเผยทุกรายชื่อ ทุกกลุ่ม ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ว่าใครลงสมัครอย่างไร มีประวัติและมีประสบการณ์การทำงานอย่างไรทาง Application Smart vote และเว็บไซต์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งหากประชาชนเห็นว่าคนไหนมีลักษณะต้องห้าม สามารถให้ข้อมูลกับกกต.ได้
ส่วนกรณีที่คณะ ก้าวหน้าและไอลอว์สามารถแนะนำผู้สมัคร ได้เหมือนกับสื่อเลยหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ขอให้ระวังตัวเอง เพราะคำว่า สื่อหรือผู้อื่นคือคนเดียวกัน หากรู้เห็นเป็นใจทำให้การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม จะต้องได้รับโทษ ซึ่งต้องดูข้อเท็จจริงในการวินิจฉัย ถ้าผู้สมัครไม่สบายใจก็ต้องปฏิเสธ หากรับประโยชน์ตลอดต้องพิสูจน์ว่ารู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ยืนยันการรณรงค์และเชิญชวนไม่ผิด ถ้าไม่ได้บอกว่าใครมีอาชีพอะไรก็ทำได้ แต่อย่าไปช่วยเหลือหรือแนะนำตัวในสิ่งที่ผิด เพราะระเบียบแนะนำตัวให้ผู้สมัครดูแลตัวเอง ต้องดูว่าใครช่วยเขาได้บ้าง ดังนั้น สื่อทำหน้าที่ตามปกติ แต่ผู้สมัครก็ต้องดูแลตัวเอง ทั้งหมดต้องอยู่ที่ข้อเท็จจริง จะวินิจฉัยอะไรตอนนี้ไม่ได้
ส่วนจะได้วุฒิสภาหน้าตาอย่างไร เลขาธิการกกต. กล่าวว่า คงตอบแทนทุกคนไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนในชาติ เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบเอาไว้ โดยกกต.จะมีมาตรการเกี่ยวกับการเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริตเที่ยงธรรม รัฐธรรมนูญมาตรา 107 ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกกันเองของบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ มีอาชีพลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทำงานด้านต่าง ๆ ที่หลากหลายของสังคม ซึ่งหมายความว่า ไม่ได้เลือกจากคะแนนนิยม ไม่เหมือนส.ส.ที่เลือกจากคะแนนนิยมจากการหาเสียง กกต.ทำในสิ่งที่คนอื่นคิดและทำไว้ตามรัฐธรรมนูญ หากเห็นว่าเลือกแล้วไม่ได้ผลอย่างที่อยากจะได้ ก็ต้องแก้ไข ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจและเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะต้องพิจารณาเรื่องนี้ว่าที่ออกแบบไว้ต้องการคนดี คนเด่น คนดัง โดยเป้าหมายใช่ แต่วิธีการไม่ได้ อาจจะต้องแก้วิธีการ ถ้าตั้งเป้าหมายและวิธีการไม่ได้ ก็ต้องไปแก้ไขที่รัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่าจะมีอะไรรองรับกรณีที่ไอลอว์ร้องศาลปกครองว่าระเบียบการเลือกสว. คลุมเครือ นายแสวง กล่าวว่า รอดูวันที่ศาลมีคำวินิจฉัย แต่ย้ำตั้งแต่ตอนแรกว่า ให้กลับไปดูที่กฎหมายก่อน ว่ากฎหมายให้ทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน เราไม่ได้เป็นคนคิดกฎหมาย.-312.-สำนักข่าวไทย