กรุงเทพฯ 4 พ.ค.- รมว. ธรรมนัสห่วงชาวสวนทุเรียนภาคตะวันออก ร้อนจัด-ขาดน้ำ ทำให้ผลทุเรียนแตกคาต้น สั่งกรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตรให้คำแนะนำแก้ไขปัญหาสวนทุเรียนและสวนผลไม้กระทบภัยแล้ง พร้อมให้กรมชลประทานส่งรถบรรทุกน้ำสนับสนุนต่อเนื่อง ไม่อยากให้เกษตรกรเพิ่มต้นทุนซื้อน้ำรดทุเรียน
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า เป็นห่วงชาวสวนผลไม้ภาคตะวันออก โดยเฉพาะสวนทุเรียนที่กำลังเริ่มตัดผลผลิตได้ โดยสภาพอากาศที่ร้อนจัดและบางพื้นที่ขาดน้ำทำให้ผลทุเรียนแตกคาต้น ได้รับรายงานว่า เกษตรกรต้องซื้อน้ำไปรดไม้ผล จึงสั่งการให้กรมชลประทานนำรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือเกษตรกรจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ
นอกจากนี้ยังให้กรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตรให้คำแนะนำชาวสวนในการแก้ปัญหาไม้ผลได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ล่าสุดกรมวิชาการเกษตรออกประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยแล้งของทุเรียนและผลไม้อื่นในภาวะฉุกเฉินแล้ว
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า ได้เร่งประสานกับกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อให้สำนักงานเกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอสำรวจความเสียหายของไม้ผล พร้อมเร่งให้ความรู้ทางวิชาการและคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาในภาวะฉุกเฉิน
สำหรับแนวทางดูแลทุเรียนที่กำลังออกผลผลิต แต่ประสบปัญหาขาดน้ำและกระทบอุณหภูมิอากาศสูง จะต้องเพิ่มความชื้นในทรงพุ่ม โดยการให้น้ำปริมาณอย่างน้อย 200 ลิตรต่อต้นต่อวัน ด้วยการพ่นน้ำ หรือติดสปริงเกอร์บนต้นทุเรียนซึ่งต้องให้น้ำในช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ในช่วงเช้ามืดเวลา 6.00-8.00 น. หรือช่วงเย็น เวลา 15.00-17.00 น. และเพิ่มเวลาการให้น้ำมากกว่าในช่วงเวลาปกติ เพื่อเป็นการระบายความร้อน ลดอุณหภูมิของอากาศ และเพิ่มความชื้นให้กับต้นทุเรียน
นอกจากนี้ต้องรักษาความชื้นในดิน โดยการคลุมดินด้วยเศษหญ้าหรือวัสดุคลุมโคนต้นทุเรียน ห้ามให้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงเพราะจะกระตุ้นให้พืชแตกใบอ่อนส่งผลให้มีการใช้น้ำมากขึ้น
จำนวนผลที่ไว้ต่อต้นต้องเหมาะสม ถ้าติดผลมาก ต้องตัดทิ้งบางส่วนเพื่อให้ต้นอยู่รอด รวมทั้งตัดแต่งใบภายในทรงพุ่มออกเพื่อลดการคายน้ำ สามารถพ่นด้วยสารที่ช่วยลดความรุนแรงจากอากาศร้อนและแล้งเช่น พ่นสารเคโอลิน (Kaolin) หรือดินขาวเคโอลิน ในอัตรา Kaolin 6% w/v อัตรา 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 200 ลิตร
ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการเกษตรระบุว่า ระยะนี้ทุเรียนพันธุ์หมอนทองในภาคตะวันออกเริ่มจะเก็บเกี่ยวได้ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรกำหนดให้วันที่ 15 เมษายนเป็นต้นไป เป็นช่วงเก็บเกี่ยวทุเรียนพันธุ์กระดุม วันที่ 5 เมษายนเป็นต้นไป เป็นช่วงเก็บเกี่ยวพันธุ์ชะนีและพวงมณี ส่วนพันธุ์หมอนทองซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีการส่งออกมากที่สุด จะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมเป็นต้นไป
ทั้งนี้เมื่อทุเรียนกระทบภัยแล้ง หากเก็บเกี่ยวเร็ว จะเป็นทุเรียนอ่อนที่ไม่ได้คุณภาพ ส่วนที่แตกคาต้น จะจำหน่ายได้ในราคาลดลงจึงต้องปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยแล้งของทุเรียนและผลไม้อื่นในภาวะฉุกเฉินที่จะออกให้คำแนะนำเกษตรกรโดยเร็วที่สุด. 512 – สำนักข่าวไทย