สถาบันพระปกเกล้า 29 เม.ย. – “พริษฐ์” จี้นายกฯ กาง KPI ตอบให้ชัดปรับ ครม. แล้วเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ชี้ปรับคนทำงานดีกระทบมั่นใจ ส่งผลถึงคนใหม่ที่จะมาแทน
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ โฆษกพรรรคก้าวไกล กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา1/1 ว่า การปรับ ครม. เป็นกลไกและเครื่องมือสำคัญของฝ่ายบริหารในการขับเคลื่อนนโยบาย แต่สิ่งที่ประชาชนคาดหวัง อยากจะเห็นการปรับ ครม. ทำให้รัฐบาลมีเครื่องมือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขับเคลื่อนนโยบายตามเป้าหมายที่สัญญาไว้กับประชาชน ไม่อยากเห็นการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีเพื่อให้ลงตัว และเมื่อปรับแล้ว นายกรัฐมนตรีควรชี้แจงต่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา ว่าการปรับเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาล โดยมีเกณฑ์ในการวัดคือการจัดสรรคนที่มีประสบการณ์หรือมีความเชี่ยวชาญในแต่ละประเด็น ไปทำงานตรงกับจุดที่ตัวเองมีความเชี่ยวชาญ
“จึงอยากได้ยินนายกรัฐมนตรีอธิบายว่าการโยกย้ายบางคนไปอีกที่หนึ่งตอบโจทย์ข้อนี้อย่างไร อยากเห็นนายกรัฐมนตรีกางให้ชัดว่า KPI และเป้าหมายการทำงานของแต่ละกระทรวงเป็นอย่างไร ซึ่งสำคัญต่อผู้ปฏิบัติงาน และจะได้ทราบว่านายกรัฐมนตรีคาดหวังอย่างไร และให้ความชัดเจนกับประชาชนว่าทิศทางการบริหารของรัฐบาลเป็นเช่นไร สุดท้ายคือการรับประกันว่าใครทำงานเข้าเป้า สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตาม ที่มีความรู้สึกว่ารัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ทำงานตามเป้าหมายและถูกปรับออกอาจทำให้คนที่ทำงานสูญเสียความมั่นใจ รวมถึงประสิทธิภาพของคนใหม่ที่จะเข้ามาในอนาคต จึงอยากเห็นนายกรัฐมนตรรออกมาชี้แจง ว่าจะปรับอย่างไรจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างไร หลังจากนี้ก็จะวิเคราะห์ได้ว่า สมเหตุสมผลหรือไม่” โฆษกพรรรคก้าวไกล กล่าว
ส่วนมองปรากฏการณ์ที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกรลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทันทีอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่ประกาศออกมาแล้วรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งที่ถูกมอบหมายในทันที แต่ต้องดูภาพรวม ไม่ควรโฟกัสที่คนใดคนหนึ่ง สิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องอธิบายให้ได้ว่า เป็นการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของรัฐมนตรีจริงๆ ซึ่งสังคมรอฟังอยู่ อย่างไรก็ตามในส่วนของการตรวจสอบ ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐมนตรี ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่อยู่แล้ว และตอนนี้แม้ปิดสมัยประชุม ก็ยังเดินหน้าทำงานเตรียมร่างกฎหมายที่จะเสนอเข้าสู่สภา.-312.-สำนักข่าวไทย