กทม. 27 เม.ย.-3 วัน เลนห้ามจอดหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ การจราจรคล่องตัวขึ้น กทม. เร่งประสานขนส่งทางบก ลงโทษแท็กซี่ไม่รับคนไทย-โกงค่ามิเตอร์
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีการบริหารจัดการจราจรหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน ว่า เซ็นทรัลเวิลด์เป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนวนมาก จึงมีรถแท็กซี่และรถสามล้อมาจอดรอให้บริการรับท่องเที่ยว ซึ่งจะจอดแช่ในช่องทางซ้ายสุดเพื่อรอรับผู้โดยสารชาวต่างชาติเท่านั้นและไม่ให้บริการคนไทย เนื่องจากการรับชาวต่างชาติรายได้จะดีกว่าจากการไม่กดมิเตอร์ จึงทำให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างหนักในบริเวณนั้น กทม.จึงแก้ปัญหาในเบื้องต้นด้วยการกั้นช่องทางพิเศษ ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับรับ-ส่งผู้โดยสาร โดยห้ามจอดแช่ แต่ไม่ใช่ Bus Lane รถทุกประเภทสามารถใช้ช่องทางดังกล่าวได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการรับ-ส่ง ผู้โดยสารจากรถทุกประเภทเร็วที่สุดโดยไม่ให้จอดแช่
ดังนั้นรถแท็กซี่ หรือรถสามล้อ สามารถเข้ามารับผู้โดยสารที่ช่องทางดังกล่าวได้ แต่ต้องรับและกดมิเตอร์หรือตกลงราคาทันทีโดยห้ามจอดแช่ ซึ่งในช่วงแรกของการจัดการจราจร มีผู้ไม่เข้าใจจำนวนมากจนเกิดเป็นกระแสสังคม แต่ในขณะนี้ผ่านมาแล้ว 3 วัน การจราจรในบริเวณดังกล่าวคล่องตัวขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งตนเองและผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่ติดตามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ กทม.ขอความร่วมมือเรื่องของการรักษาระเบียบวินัยการจราจร และขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้บริการรถแท็กซี่ และรถรับจ้างในจุดให้บริการซึ่งทางเซ็นทรัลเวิลด์จัดไว้ 3 จุดรอบบริเวณห้าง ซึ่งอาจจะต้องเสียเวลาเดินไปที่จุดดังกล่าว เกิดความไม่สะดวกสบาย แต่ก็ต้องร่วมมือกันเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความคล่องตัวของการจราจรในกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ กทม. ได้ประสานกับกรมการขนส่งทางบก ให้มีบทลงโทษสำหรับแท็กซี่ที่ไม่รับผู้โดยสารชาวไทย คิดมิเตอร์เกินราคา หรือไม่กดมิเตอร์ จอดแช่เพื่อรอรับผู้โดยสารชาวต่างชาติโดยไม่รับคนไทย รวมถึงการพิจารณาสามล้อมิเตอร์ในอนาคต เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากในเรื่องของสามล้อคิดราคาเกินมาตรฐาน โดยพิจารณาจากหลักการและเหตุผลในเรื่องราคามิเตอร์ เพื่อลดปัญหาการต่อรองราคาและโกงราคาค่าโดยสารกับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกรุงเทพฯ สร้างความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งอำนาจการจับกุม ลงโทษ และกำหนดราคามิเตอร์ไม่ใช่อำนาจของกทม.แต่เป็นอำนาจของกรมการขนส่งทางบก โดยอธิบดีกรมการขนส่งทางบกได้รับไปพิจารณาแล้ว โดยจะนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและนักท่องเที่ยวต่อไป.-417.-สำนักข่าวไทย