ศาลอินโดนีเซียปฎิเสธคำร้องทั้ง 2 ฉบับให้เลือกตั้ง ปธน. ใหม่

จาการ์ตา 22 เม.ย. – ศาลรัฐธรรมนูญอินโดนีเซียปฎิเสะคำร้องทั้ง 2 ฉบับของ ผู้ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย 2 คน ที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่อีกครั้งและให้ตัดสิทธินายปราโบโว ซูเบียนโต ที่ชนะการเลือกตั้งและผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีร่วมกับเขาด้วย


นายอานีส บาสเวดัน วัย 54 ปี อดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาและนายกันจาร์ ปราโนโว วัย 55 ปี อดีตผู้ว่าการจังหวัดชวากลาง ที่ลงสมัครรับเลือกต้ังประธานาธิบดีแต่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งต่างคนต่างยี่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยกล่าวหาว่า หน่วยงานของรัฐแทรกแซงให้คุณแก่นายปราโบโว รัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลปัจจุบัน ที่ชนะการเลือกตั้งโดยมีคะแนนทิ้งห่าง พร้อมกับร้องเรียนว่า นายจิบราน รากาบูมิง รากา ผู้สมัครรองประธานาธิบดีคู่กับนายปราโบโว ซึ่งก็คือบุตรชายวัย 36 ปี ของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซียคนปัจจุบัน ไม่ควรได้รับอนุญาตให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งรัฐบาลและนายปราโบโวต่างปฎิเสธข้อกล่าวหาของนายอานีสและนายกันจาร์

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยคำร้องของนายอานีสก่อนและของนายกันจาร์ในเวลาต่อมา แต่วินิจฉัยเหมือนกันว่า ไม่มีหลักฐานว่ามีการทุจริตกันอย่างเป็นระบบ หรือ อย่างกว้างขวางในการเลือกตั้งอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และไม่พบว่า ประธานาธิบดี หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งเพื่อเบี่ยงเบนการตัดสินใจของผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง หัวหน้าผู้พิพากษา ซูฮาร์โตโย ประกาศคำพิพากษาว่า คำร้องของโจทก์ไม่มีหลักฐานทางกฎหมายทั้งหมด


คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นอันสิ้นสุดและมีผลบังคับใช้ในขณะที่ตัวแทนของผู้ยื่นทำร้องคัดค้านทั้ง 2 กล่าวว่า พวกเขาเคารพในคำพิพากษาของศาล นายปราโบโว มีกำหนดจะเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแนห่บงในเดือนตุลาคมนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก