กรุงเทพฯ 18 เม.ย.-ก.เกษตรและสหกรณ์ แนะนำพันธุ์ข้าวพระราชทาน 6 สายพันธุ์ที่ใช้ประกอบในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี พ.ศ.2567 โดยมีข้าวเจ้า 4 สายพันธุ์และข้าวเหนียว 2 สายพันธุ์ ขณะนี้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอรับเมล็ดพันธุ์ได้ถึง 25 เม.ย.67
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวกล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายให้กรมการข้าวทำหน้าที่จัดเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อใช้ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญซึ่งเป็นพระราชพิธีซึ่งจัดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลและบำรุงขวัญแก่เกษตรกรไทย กำหนดจัดขึ้นในเดือนหกของทุกปีเนื่องจากเป็นระยะเวลาเหมาะสมที่จะเริ่มต้นทำนา โดยในปี พ.ศ. 2567 นี้ กำหนดให้วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เป็นวันประกอบพระราชพิธีพืชมงคลซึ่งเป็นพิธีทำขวัญพืชพันธุ์ธัญญาหารที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอธิษฐานเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบพระราชพิธีในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง สำหรับในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เป็นวันพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ (วันไถหว่าน) อันเป็นพิธีพราหมณ์ จะประกอบพระราชพิธี ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
สำหรับพระราชพิธีพืชมงคลซึ่งเป็นพิธีทำขวัญพืชพันธุ์ธัญญาหารที่พระมหากษัตริย์ทรงอธิษฐานเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น สื่บเนื่องมาจากความเชื่อที่ว่า ข้าวเป็นอาหารหลักของประชาชน โดยในภาษาบาลีเรียกว่า “ปุพพัณณะ” “บุพพัณณะ” หรือ “บุพพัณณชาติ” ส่วนพืชอื่นๆ ที่เป็นอาหารเรียกว่า “อปรัณณ” หรือ “อปรัณชาติ” หมายถึง พืชจำพวกถั่ว งา เป็นต้น หากเรียกควบทั้งสองอย่างก็เรียกว่า “บุพพัณณปรัณณชาติ” ที่หมายถึงพืชที่เป็นอาหารทุกชนิด โดย “บุพพัณณปรัณณชาติ” ที่นำเข้าพระราชพิธีพืชมงคลนั้น เป็นข้าวเปลือก มีทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียว นอกจากนี้ มีเมล็ดพืชต่างๆ รวม 40 อย่าง แต่ละอย่างบรรจุถุงผ้าขาวกับเผือกมันต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีข้าวเปลือกที่หว่านในพิธีแรกนาซึ่งบรรจุกระเช้าทองคู่หนึ่งและเงินคู่หนึ่ง
พันธุ์ข้าวที่นำมาประกอบในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญซึ่งประชาชนทุกเพศทุกวัยมักเดินทางมายังลานแรกนาท้องสนามหลวง โดยมีความมุ่งหมายเดียวกัน เพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวกลับไปเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคล นับตั้งแต่ปี 2504 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันได้มาจากแปลงนาในสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิตซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวเปลือกที่หว่านในพิธีแรกนาในปีก่อนหน้า ที่ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานสำหรับไว้ใช้ในงานพระราชพิธีฯ
ในปี พ.ศ. 2567 นี้ เมล็ดพันธุ์ข้าวเปลือกที่นำเข้าในพระราชพิธี น้ำหนักรวม 2,743 กิโลกรัม ประกอบด้วย พันธุ์ข้าวนาสวน 6 สายพันธุ์ โดยแบ่งเป็นข้าวเจ้า 4 สายพันธุ์และข้าวเหนียว 2 สายพันธุ์
ข้าวเจ้า 4 สายพันธุ์ได้แก่
– ขาวดอกมะลิ 105 เป็นข้าวเจ้าที่ทนแล้งได้ดีพอสมควร เมล็ดข้าวสารใส แกร่ง คุณภาพการสีดี คุณภาพการหุงต้มดี อ่อนนุ่ม มีกลิ่นหอม ทนต่อสภาพดินเปรี้ยว และดินเค็ม 903 กิโลกรัม
– กข 43 เป็นข้าวเจ้า ไม่ไวต่อช่วงแสง คุณภาพของเมล็ดทางการหุงต้มรับประทาน ดี ข้าวสุกนุ่ม มีกลิ่นหอมอ่อน ค่อนข้างต้านทานต่อโรคไหม้และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล 300 กิโลกรัม
– กข 81 เป็นข้าวเจ้า ไม่ไวต่อช่วงแสง เมล็ดขนาดปานกลาง มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับแปรรูปเป็นข้าวพองอบกรอบ 200 กิโลกรัม
– กข 85 เป็นข้าวเจ้าพื้นแข็ง เป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง ปลูกได้ทั้งนาปี และนาปรัง ทนต่อสภาพอากาศเย็น คุณภาพการสีดีมาก ท้องไข่น้อย 200 กิโลกรัม
– กข 87 เป็นพันธุ์ข้าวพื้นนุ่ม ลักษณะเด่นพิเศษ ข้าวสุกนุ่ม ค่อนข้างเหนียว คุณภาพเมล็ดทางกายภาพดี ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดีมาก เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาชลประทานภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง 300 กิโลกรัม
– กข 95 เป็นข้าวเจ้า คุณภาพการสีดีมาก ท้องไข่น้อย ต้านทานต่อโรคไหม้ และค่อนข้างต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เหมาะสำหรับพื้นที่นาชลประทานภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง 200 กิโลกรัม
ข้าวเหนียว 2 สายพันธุ์ได้แก่
– กข 6 ได้จากการปรับปรุงพันธุ์ โดยการใช้รังสีชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ นับว่า เป็นข้าวพันธุ์ดีพันธุ์แรกของประเทศไทย ที่ค้นคว้าได้โดยใช้วิธีชักนำพันธุ์พืช ให้เปลี่ยนกรรมพันธุ์โดยใช้รังสี ให้ผลผลิตสูงและทนแล้ง คุณภาพการหุงต้มดี มีกลิ่นหอม 540 กิโลกรัม
– สันป่าตอง 1 เมล็ดข้าวเปลือกสีฟาง คุณภาพข้าวสุก เหนียวนุ่ม ต้านทานโรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง ให้ผลผลิตสูง สามารถปลูกได้ตลอดปี 100 กิโลกรัม
พันธุ์ข้าวดังกล่าว ส่วนหนึ่งใช้หว่านในระหว่างพิธีและจัดเป็น “พันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทาน” บรรจุใส่ซองขนาดเล็กเพื่อจัดส่งให้จังหวัดต่าง ๆ สำหรับใช้แจกจ่ายแก่เกษตรกรรับไปเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคล
ในการประกอบอาชีพตามพระราชประสงค์ และเมล็ดพันธุ์ที่เหลือทั้งหมด กรมการข้าวขอพระราชทานพระบรม
ราชานุญาตนำไปปลูกไว้ทำพันธุ์ในฤดูกาลปี พ.ศ. 2567 เพื่อเป็นต้นตระกูลของพืชพันธุ์ดีเผยแพร่สู่เกษตรกรต่อไป โดยผู้ที่สนใจสามารถขอรับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานผ่านการลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ https://rice.moac.go.th/ โดยลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 . 512 – สำนักข่าวไทย