กรุงเทพฯ 10 ส.ค.- กระทรวงอุตสาหกรรมจับมือพันธมิตรสถาบันการเงินและหลายหน่วยงาน
จัดมาตรการช่วยเอสเอ็มอีด้านการเงิน เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่
11 สิงหาคม ตั้งเป้า 27,000 รายที่จะได้รับสินเชื่อ 136,000 ล้านบาท
นายอุตตม สาวนายน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ด้านการเงิน
ว่า เพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งกองทุนและแหล่งทุนต่าง ๆ
ได้รวดเร็วและจำนวนที่มากขึ้น
กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องออกมาตรการช่วยเหลือรวม
3 มาตรการ
เริ่มดำเนินการในวันพรุ่งนี้(11 ส.ค.) ประกอบด้วย 1.มาตรการช่วยค้ำประกันสินเชื่อแก่เอสเอ็มอี
โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) ด้วยวงเงินค้ำประกันรวม 81,000 ล้านบาท
เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ โดยรัฐบาลรับภาระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันแทนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
ในช่วง 4 ปีแรก
ด้วยอัตราร้อยละ 1.75 ,1.25, 0.75และร้อยละ 0.25 ตามลำดับ
และให้สถาบันการเงินร่วมชดเชยค่าธรรมเนียมการค้ำประกันในปีที่ 2 ถึง 4
ในส่วนที่เหลือ พร้อมกับเพิ่มความรับผิดชอบการจ่ายค่าประกันชดเชยจากเดิมสูงสุดไม่เกินร้อยละ
23.75
เป็นสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 ของภาระค้ำประกันเฉลี่ย ณ
วันสิ้นอายุการค้ำประกัน และอนุมัติงบประมาณชดเชยเพิ่มเติมไม่เกิน 8,302.50 ล้านบาท
โดยคาดว่า จะช่วยให้เอสเอ็มอี ได้รับสินเชื่อเพิ่มประมาณ 27,000 ราย
ก่อให้เกิดสินเชื่อในสถาบันการเงินประมาณ 136,000 ล้านบาท หรือ 1.68 เท่า
เกิดการจ้างงานเพิ่มประมาณ 108,000 คน หรือ 4 คน/ราย
พร้อมทั้งสร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อีก 371,000 ล้านบาท
2.
จัดให้มีสินเชื่อเอสเอ็มอีด้านอุตสาหกรรม
ธุรกิจ และบริการที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
และธุรกิจแฟรนไชส์พร้อมทางยกระดับผู้ประกอบการในชุมชนในการปรับปรุงการดำเนินงานและเสริมสภาพคล่องในการต่อยอดกิจการด้วยการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำในวงเงินสินเชื่อ
7,500 ล้านบาท สำหรับบุคคลธรรมดาวงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน
2 ล้านบาท
นิติบุคคลวงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 7 ปี
สำหรับวงเงินไม่เกิน 5
ล้านบาทแรกไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันสามารถใช้บสย.ช่วยค้ำประกันได้
ตลอดจนรองรับโครงการสินเชื่อแฟคตอริ่งที่ให้ความช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ทางการค้าต่างๆ
ทั้งนี้การพิจารณาสินเชื่อจะครอบคลุมการให้สินเชื่อทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่
ที่จะสนับสนุนให้เกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งระบบโดยถือเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนนโยบาย
local economy ของรัฐบาลในจังหวัดต่างๆ
ตลอดจนการยกระดับเป็นชุมชนและสินค้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 4.0
3.
มาตรการทางการเงินภายใต้กองทุนประชารัฐ
วงเงิน 38,000 ล้านบาท ล่าสุดมีผู้สนใจขอวงเงินรวม
18,777 ราย
ได้รับอนุมัติแล้ว 3,413 ราย นอกจากมาตรการทางการเงินแล้ว
กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานต่าง ๆ ยังมีมาตรการพัฒนาเอสเอ็มอีเพื่อลดปัญหาด้านการบริหารจัดการทางการเงิน
โดยจากการหารือกับสมาคมธนาคารไทย ได้เสนอแนวทางในการยกระดับมาตรการในเรื่องการบริหารจัดการทางการเงินต่อเอสเอ็มอี
เช่น การปรับนิยามของเอสเอ็มอี แบ่งตามกลุ่มประเภทธุรกิจและยอดขาย
พร้อมจัดตั้งกลุ่มตลาดเพื่อให้ความรู้ด้านการเงินที่เหมาะสม
นายอุตตม ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือเอสเอ็มอีและวิสาหกิจรายย่อยที่ประสบภัยน้ำท่วมว่า
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีการปรับให้วงเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
วงเงิน 5,000 ล้านบาท
ให้สามารถนำมาใช้ได้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศ โดยวงเงินดังกล่าว เป็นสินเชื่อของเอสเอ็มอีแบงก์ โดยผ่อนปรนระยะเวลาชำระหนี้และให้สินเชื่ออุทกภัยเพิ่มเติมในการฟื้นฟูกิจการรายละไม่เกิน
15 ล้านบาท
ดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ผ่อนชำระนาน 7 ปี นอกจากนี้
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ยังมีมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วยการให้กู้ยืมเพื่อฟื้นฟูกิจการ
สำหรับ Micro SMEs และวิสาหกิจชุมชน
วงเงินรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท
โดยไม่คิดดอกเบี้ยและไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ผู้ประกอบการสนใจรายละเอียด
สอบถามได้ที่ ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี กระทรวงอุตสาหกรรม Call Center 1358 หรือเข้าไปที่ www.moi.go.th-สำนักข่าวไทย