พรรคก้าวไกล 1 เม.ย.-“ก้าวไกล” ถือฤกษ์ “เกณฑ์ทหาร” วันแรก อัดรัฐบาลไม่ทำตามหาเสียง “ยกเลิกเกณฑ์ทหาร” ชวนปชช.ติดตามจะเปลี่ยนหรือไม่ กมธ.ทหารเตรียมขนจิตแพทย์พบพลทหารป่วย-วิตกกังวล เหน็บทำให้ “กลาโหม” ดูเป็นเยี่ยงอย่าง
พรรคก้าวไกลจัดแถลงข่าว Policy Watch ในหัวข้อ ก้าวแรกพลทหารต้องปลอดภัย ก้าวต่อไปต้องยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร โดยร.ท.ธนเดช เพ็งสุข สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงโครงการพลทหารปลอดภัยโดย ชักชวนให้พลทหารที่ได้รับความไม่เป็นธรรมร้องเรียนมาผ่านโครงการ พร้อมส่งสารไปถึงกำลังพลใหม่และเก่าที่หนีทหารให้มาร้องกับกรรมาธิการฯได้ เราจะนำทุกคนกลับเข้าสู่กรม กองด้วยความปลอดภัย
“รอบเดือนที่ผ่านมามีข่าวร้ายเกี่ยวกับวงการทหารมากมาย เราได้ทราบข่าวการผูกคอตาย การกระโดดตึกของพลทหาร เนื่องจากอาการทางจิตหรือความวิตกกังวลก็ดี ทางคณะกรรมาธิการการทหารจึงเตรียมนำคณะจิตแพทย์เข้าพบกลุ่มคนเหล่านี้ เพื่อเป็นโรลโมเดลให้กับกระทรวงกลาโหมได้ดูกันเยี่ยงอย่างในการนำไปปรับปรุง เมื่อตอนนี้เรายังไม่สามารถยกเลิกเกณฑ์ทหารได้ สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือคุ้มครองกำลังพล ทั้งศักดิ์ศรีและความปลอดภัย รวมถึงเป็นพื้นที่ให้ครอบครัวและอุ่นใจว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นของพี่น้องประชาชนจะอยู่เคียงข้าง ทั้งในยามทุกข์และยามสุข” ร.ท.ธนเดช กล่าว
ร.ท.ธนเดช กล่าวว่า การยกเลิกเกณฑ์ทหารยังทำไม่สำเร็จในรัฐบาลปัจจุบัน พรรคก้าวไกลเคยส่งร่างไปให้คณะรัฐมนตรีแล้ว เนื่องจากเป็นร่างกฏหมายการเงิน แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ พรรคได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีกฉบับที่ไม่เป็นร่างทางการเงิน มองว่าจะเป็นการวัดใจรัฐบาลและเพื่อนสมาชิกในสภาฯทุกคน ว่าสิ่งที่เราเคยพูดกันไว้ในยามหาเสียงจะทำจริงหรือไม่ ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวจะตัดสิทธิ์กองทัพในการเกณฑ์ทหารในห้วงเวลาที่ไม่ใช่สถานการณ์รบ โดยการยกเลิกเกณฑ์ทหารมี 2 แบบ คือลุ้นปีต่อปีกับยกเลิกถาวร
“ปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยความต้องการของกำลังพลในประเทศไทย ประมาณปีละ 90,000 นาย ปัจจุบันมีการสมัครอยู่ประมาณ 30,000 นาย แสดงว่าใน 1 ปี มีคนที่ต้องไปเสี่ยงจับใบดำใบแดง การมีอยู่ของการเกณท์ทหารในปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าเป็นผลดี เพราะทุกคนที่เข้าไปเกณฑ์ทหารล้วนมีต้นทุนและมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ได้ไปด้วยความสมัครใจแต่จำเป็นต้องไปเตือนความจำนน ทุกคนล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็นสิทธิเสรีภาพ การเจริญเติบโตทั้งหน้าที่การงาน หรือแม้กระทั่งการดูแลบุพการีในห้วงสุดท้ายของชีวิต” ร.ท.ธนเดช กล่าว
ร.ท.ธนเดช กล่าวว่า ชุดความคิดของเราไม่กระทบกับความมั่นคงของประเทศ ข้อเสนอของเราคือการที่กองทัพจะต้องทำเงื่อนไขลดดีมานด์ ลดกำลังพล ลดยอดผีที่ไม่เคยตรวจสอบได้อย่างชัดแจ้ง ตนมั่นใจว่าทุกกรมกองเมื่อลีนตัวเลขกำลังพลแล้ว จะเหลือประมาณ 50,000-60,000 นาย ซึ่ง นอกจากลดดีมานด์แล้ว ยังต้องเพิ่มสวัสดิการให้พลทหารที่สมัครใจเป็นกำลังพลกองทัพ การยกระดับคุณภาพชีวิต ประกันรายได้ คุ้มครองความปลอดภัยพื้นฐาน มั่นใจว่าหากยกระดับคุณภาพชีวิตพลทหารได้ จะมีประชาชนไม่น้อยที่พร้อมจะสมัครใจเป็นทหาร
“การที่พรรคก้าวไกลเสนอยกเลิก พ.ร.บ.เกณฑ์ทหาร 2497 เพื่อตัดอำนาจกองทัพในการบังคับคนมาเป็นทหารโดยไม่จำเป็น วันนี้เป็นวันแรกที่มีการเกณฑ์ทหาร แต่นโยบายที่ใช้ในกระทรวงกลาโหมกลับไม่เหมือนกับตอนหาเสียงเลือกตั้ง หากรัฐบาลให้ใช้วิธีการสมัครครึ่งหนึ่ง ที่เหลือมาจากการเกณฑ์ นอกจากนี้ยังไม่มีแผนที่ชัดเจนว่าภายใน 4 ปี จะลดกำลังพลลงไปเท่าไหร่ เวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาวัดใจประชาชน ว่ารัฐบาลได้ทำตามที่หาเสียงไว้หรือไม่” ร.ท.ธนเดช กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย