กรุงเทพฯ 74 ส.ค. – กรมชลฯ เร่งระบายน้ำท่วมขังพื้นที่ 2 ฝั่งลำน้ำก่ำ คาดเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2 วัน หากไม่มีฝนตกเพิ่ม
นายสมชาย คณาประเสริฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 กรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสกลนครซึ่งปัจจุบัน ยังคงเหลือพื้นที่โดยรอบหนองหารที่ยังมีน้ำท่วมขังที่ลุ่มต่ำเป็นบางแห่ง และพื้นที่การเกษตรทั้งสองฝั่งลำน้ำก่ำอีก 26,000 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำประมาณ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำหนองหารวันนี้ที่ประตูระบายน้ำสุรัสวดี ระดับน้ำอยู่ที่ +157.55 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง คิดเป็น 293.60 ล้านลูกบาศก์เมตร มากกว่าระดับเก็บกัก 27 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำไหลเข้าอ่าง 17.93 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำอยู่ที่ 21.30 ล้านลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำยังคงสูงกว่าระดับเก็บกัก 0.55 เมตร ลดลงจากเมื่อวาน 7 เซนติเมตร และประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต ระดับน้ำเหนือประตูระบายน้ำ +137.75 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยต่ำกว่าระดับน้ำเก็บกัก 0.75 เมตร ปริมาณน้ำหน้าประตูระบายน้ำ 19.46 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 54.55 น้ำไหลเข้า 38 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำอยู่ที่ 34 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการเร่งระบายปริมาณน้ำดังกล่าวได้เพิ่มการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำและเครื่องสูบน้ำตามจุดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ โดยติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณท้ายประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง 2 เครื่อง บริเวณสะพานบ้านด่านม่วงคำ เหนือประตูระบายน้ำบ้านหนองบึงจากเดิม 4 เครื่อง ติดตั้งเพิ่มเติมอีก 4 เครื่อง รวมเป็น 8 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำบ้านนาขาม ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 4 เครื่อง และบริเวณประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำท้ายประตู จำนวน 8 เครื่อง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร/วินาที บริเวณเหนือประตู จำนวน 4 เครื่อง รวมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ รวม 22 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำ จำนวน 4 เครื่อง
ส่วนปัญหามวลน้ำที่ค้างอยู่ที่อำเภอนาแก จ.นครพนม ไม่สามารถไหลลงลำน้ำก่ำได้นั้น ขณะนี้กรมชลประทานได้ขุดเปิดทางระบายน้ำ จำนวน 2 จุด เพื่อเร่งการระบายน้ำลงลำน้ำก่ำ โดยสามารถเพิ่มอัตราการระบายน้ำได้ประมาณ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ทั้งนี้หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์ลุ่มน้ำก่ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 2-3 วันนี้ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมให้การช่วยเหลือ ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย