ลำพูน 17 มี.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ลำพูน เตรียมยกระดับเป็นเมืองหลักการท่องเที่ยว เชื่อมต่อเชียงใหม่-สนามบินล้านนา รับห่วงแก้หนี้ เหตุเป็นหายนะประเทศ ต้นเหตุก่ออาชญากรรม ขณะเจ้าอาวาสวัดดอนหลวงมอบแท่นพิมพ์พระรอดจำลอง อวยพรอยู่ครบ 4 ปี
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดลำพูน พบปะประชาชนในพื้นที่ ณ บ้านดอนหลวง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน
เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้แวะถ่ายรูปกับประชาชนที่มารอต้อนรับและรับมอบผ้าพันคอ กอนจะเดินเข้ามายังภายในวัดดอนหลวง ซึ่งภายในได้จัดแสดงนิทรรศการอัตลักษณ์ของจังหวัดลำพูน โดยนายกรัฐมนตรีได้รับฟังบรรยายสรุปเรื่องการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดลำพูน และได้รับมอบเสื้อลายวัวน้อย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ขาวลำพูน รวมถึงเป็นสายพันธุ์ที่ใช้ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ทดลองชิมมะม่วงพันธุ์จักรพรรดิ์ ก่อนจะสอบถามว่าสามารถส่งออกขายยังต่างประเทศได้หรือไม่ พร้อมชิมทองม้วนจากมะม่วง ก่อนได้รับมอบภาพวาดเหมือนของนายกฯ โดยใช้สีจากคราม รวมถึงกระเป๋าเพนต์ลายสีจากคราม
นายกรัฐมนตรียังได้เข้าไปยังพระอุโบสถ เพื่อกราบนมัสการเจ้าอาวาส ซึ่งเจ้าอาวาสได้สะท้อนปัญหาเรื่องไฟทางและการปรับปรุงถนน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ สส.ในพื้นที่เสนอเรื่องเข้ามายังคณะรัฐมนตรี ก่อนที่เจ้าอาวาสได้มอบแท่นพิมพ์พระรอดลำพูน พร้อมกับกล่าวแซวนายกรัฐมนตรีว่าของจริงไม่มีแล้ว หากมีคงรวยไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร และขอให้นายกรัฐมนตรีอยู่บริหารประเทศครบ 4 ปี
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะปัดทุกข์ปัดโศก ปัดโรคปัดภัย และรับมอบพระคริสตัลรูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัย ผูกข้อมือมงคล จากพระอาจารย์ในวัด และรับมอบไม้สักแกะสลักพระ โดยมีความเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ขากลับว่าจะได้เป็นนายกฯ 2 สมัย
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พบปะกับชาวบ้านจังหวัดลำพูน พร้อมระบุว่าวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาเยือน เนื่องจากในช่วงเลือกตั้งไม่ได้มีโอกาสเดินทางมา วันนี้เข้ามาเป็นรัฐบาลได้ 6 เดือนกว่าแล้ว ดีใจที่ได้มาเยือนจังหวัดลำพูน วันนี้ได้รับฟังการรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดว่าลำพูนได้รางวัลจังหวัดสะอาด 5 ปีซ้อน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ต้องยกความดีความชอบให้กับประชาชนชาวลำพูนทุกคนที่มีจิตใต้สำนึกที่ดี ทำให้เป็นเมืองที่สะอาด ได้รับการยอมรับมาถึง 5 ปี ตนเชื่อว่ารายได้ต่อหัว หรือ GDP สูงสุดในภาคเหนือ 17 จังหวัด ไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่ลำไย ถือเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดลำพูน หากมีการสื่อสารด้านการตลาดที่ชัดเจนเชื่อได้ว่ารายได้ของประชาชนจะสูงขึ้น รัฐบาลโดย สส.ลำพูน มีการผลักดันเรื่อง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ลำไยเข้าสู่สภาฯ ไปที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในช่วงการดำเนินการอยู่ จะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดลำพูน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลำไย มีความเข้มแข็ง และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนมีความแข็งแรง พร้อมกับมอบให้กระทรวงพาณิชย์ส่งออกไปยังต่างประเทศ
ขณะเดียวกันการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ตนเชื่อว่าเป็นจุดหนึ่งที่จังหวัดลำพูน สามารถทำได้ดี การที่เรามี 17 จังหวัด ภาคเหนือรวมตัวกันอย่างหนาแน่น ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานกันอย่างเข้มแข็งและแข็งแรงกันทุกคนตนเชื่อว่าการท่องเที่ยวของจังหวัดลำพูน เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา เชียงราย และจังหวัดภาคเหนืออีกหลายจังหวัด จะรวมตัวกันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเมืองหลัก แม้ว่าเชียงใหม่จะเป็นเมืองหลัก ลำพูนเป็นเมืองรอง แต่สามารถยกขึ้นเป็นเมืองหลักได้
“วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็อยู่ที่นี่ เรื่องของการขยายสนามบินล้านนา ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตนเชื่อว่าการเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ มาลำพูน จะใช้เวลาไม่นาน ตรงนี้เชื่อว่าเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่ทำให้กระตุ้นเศรษฐกิจของภาคเหนือ 17 จังหวัดได้เป็นอย่างดี” นายกรัฐมนตรี ระบุ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหายาเสพติดว่าเป็นเรื่องใหญ่ได้มีการรับฟังการบรรยายสรุปมีปัญหาอยู่ แต่ดีใจที่ผู้ว่าราชการจังหวัดและฝ่ายความมั่นคงให้ความสำคัญและทำงานอย่างต่อเนื่อง
ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบ ยืนยันว่าเป็นต้นเหตุของความหายนะของประเทศ หากดูจากตัวเลขในจังหวัดลำพูน ถือว่ายังต่ำ จึงต้องฝากผู้ว่าราชการจังหวัดแม้ว่าจะทำดีในหลายอย่างเรื่อง ซึ่งตลาดนัดหนี้นอกระบบตนอยากให้ทางอำเภอ ทางผู้กำกับ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ขอให้ฝากว่าทำงานให้เข้มแข็งขึ้นอีกเข้าใจว่ามีภารกิจเยอะ แต่ขอให้ทำงานที่เข้มแข็งขึ้น เนื่องจากเป็นตัวร้ายที่กัดก่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นสารตั้งต้นของภัยพิบัติอีกหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาเสพติด อาชญากรรม เรื่องหนี้ ขอให้เป็นเรื่องที่ทางการให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
“วันนี้ดีใจที่ได้ใส่เสื้อผ้าฝ้ายของจังหวัดลำพูน เป็นแหล่งผลิตฝ้ายที่ใหญ่ ที่สุดหน้าที่ของตนในการเดินทางไปต่างประเทศ ตนพยายามผลักดันสินค้าไทยจากทุกภูมิภาคจากทุกจังหวัดที่ไป วันนี้เดี๋ยวช่วงตอนบ่ายจะไปเดินเซ็นทรัล เชียงใหม่ ช่วยโปรโมทผ้าพื้นเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เราจะให้ความสำคัญและสังกัดไปยังกระทรวงพาณิชย์และมหาดไทย ให้มีการพัฒนาภาคเหล่านี้ออกมาเจาะหาตลาดใหม่ๆ ตนดีใจแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ขอโทษที่ไม่ได้มาเร็วกว่านี้ แต่ช้าก็ดีกว่าไม่ได้มา วันนี้ถือว่าเป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกท่าน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการผลิตผ้าฝ้าย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของพื้นที่ชุมชน สวมงอบ และเซ็นลายเซ็นบนภาพวาดเหมือนให้กับประชาชนด้วย รวมถึงยังถ่ายรูปเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง
ก่อนที่ในช่วงเย็นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาติดตามประเด็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และยกระดับสินค้า Soft Power ณ คลองแม่ข่า ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.-316-สำนักข่าวไทย