วอชิงตัน 8 มี.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเปิดการปราศรัยแถลงผลงานและนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาหรือสเตทออฟเดอะยูเนียน (State of the Union) ด้วยการกล่าวโจมตีโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐและนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย
ประธานาธิบดีไบเดน วัย 81 ปี ปราศรัยแถลงเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่รับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2564 โดยได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 21:00 น.วันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 09:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย ด้วยการกล่าวถึงทรัมป์ว่า ประธานาธิบดีรีพับลิกันคนก่อนสนับสนุนให้ปูตินบุกประเทศในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตที่ไม่เพิ่มการจ่ายเงินสมทบนาโต ถือเป็นเรื่องอันตรายและไม่สามารถยอมรับได้ และได้ส่งสารไปถึงปูตินว่า สหรัฐจะไม่เดินหนีจากยูเครน จากนั้นได้กลับมากล่าวโจมตีทรัมป์อีกครั้งเรื่องกลุ่มสนับสนุนทรัมป์บุกก่อจลาจลที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ไม่ยอมรับชัยชนะของเขาในการเลือกตั้งปี 2563 และโจมตีพรรครีพับลิกันเรื่องหาทางล้มเลิกนโยบายประกันสุขภาพที่เรียกว่าโอบามาแคร์ ทำให้สหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น และหาเงินจากกฎหมายที่เคยคัดค้าน
ประธานาธิบดีไบเดนใช้การปราศรัยครั้งนี้ย้ำเรื่องสนับสนุนสิทธิการทำแท้ง และจะทำให้เป็นกฎหมายหากชาวอเมริกันลงคะแนนให้ สส.พรรคเดโมแครตได้ครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภาในการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้ง สส.ทั้งหมด 435 ที่นั่ง และ สว. 34 ที่นั่งจากทั้งหมด 100 ที่นั่ง และการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ไบเดนเผยว่า จะเพิ่มอัตราภาษีขั้นต่ำกับนิติบุคคลและกับชาวอเมริกันที่มีทรัพย์สินเกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกิน 3,555 ล้านบาท) พร้อมกับคุยว่าเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นในช่วงรัฐบาลของเขา.-814.-สำนักข่าวไทย