สงขลา 26 ก.พ. – พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ช่วงคลื่นลมแรงต้องหยุดออกเรือ ชาวประมงพื้นบ้านชุมชนเก้าเส้ง จ.สงขลา หันมาทอดแหจับปลากระบอก ซึ่งชุกชุมบริเวณชายฝั่ง ราคาสูงถึง กก.ละ 350-400 บาท
ที่ จ.สงขลา ช่วงนี้ต้องเผชิญกับฝนตกและคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ชายฝั่ง 6 อำเภอของ จ.สงขลา ตั้งแต่ อ.ระโนด อ.สทิงพระ อ.สิงหนคร อ.จะนะ อ.เทพา และ อ.เมืองสงขลา ต้องหยุดออกเรือชั่วคราว จากวิกฤติกลับกลายเป็นโอกาส เพราะชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนเก้าเส้ง ซึ่งเป็นชุมชนชาวเลเก่าแก่ดั้งเดิมของเมืองสงขลา พากันนำแหมาทอดจับปลากระบอก บริเวณเวิ้งอ่าวชายหาดสมิหลา โดยยืนเรียงรายกันเป็นจุดๆ ตลอดแนวชายหาด สายตาจับจ้องไปยังฝูงปลากระบอกที่ว่ายมากับเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ด้วยทักษะและความชำนาญ ซึ่งคนทั่วไปอาจจะดูไม่ออก แต่ชาวเลดูไม่พลาด เมื่อเห็นฝูงปลากระบอกเข้ามาก็จะรีบวิ่งไปทอดแหดักหน้าฝูงปลาทันที เนื่องจากปลากระบอกมีความว่องไวและว่ายน้ำอย่างรวดเร็ว จึงต้องเหวี่ยงแหให้เร็ว
นายรอยี อายุ 33 ปี หนึ่งในชาวประมงพื้นบ้านจากชุมชนเก้าเส้ง บอกว่า มาทอดแหจับปลากระบอก บริเวณชายหาดสมิหลา ในช่วงนี้ เนื่องจากไม่สามารถนำเรือออกจับปลาได้ เพราะคลื่นลมแรง ทำให้ต้องหยุดออกเรือ และนำแหมาทอดจับปลา เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว เพราะที่นี่มีปลาชุกชุม
สำหรับราคาปลากระบอก ตัวใหญ่ กก.ละ 350-400 บาท ส่วนตัวเล็ก กก.ละ 200-250 บาท เป็นราคาที่ดีมาก แต่ละวันชาวประมงพื้นบ้านที่มาทอดแหจะจับปลากระบอกได้ไม่ต่ำกว่า 1 กิโลกรัม เป็นการหารายได้เสริมในช่วงที่ต้องว่างเว้นจากการออกเรือ. – สำนักข่าวไทย