กรุงเทพฯ 21 ก.พ. – อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งทุกหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศเร่งตรวจสอบการออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกประเภท เพื่ออนุรักษ์คุ้มครองป่าไม้ ให้เป็นประโยชน์สาธารณะ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ต้องขยายผล เชื่อมีคนอยู่เบื้องหลังซึ่งจะสาวให้ถึงอย่างแน่นอน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ได้ออกหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 – 16 และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาทุกสาขาให้สั่งการให้หน่วยงานป่าอนุรักษ์ตรวจสอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกประเภทในสังกัดว่า มีการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ทับซ้อนหรือไม่ มีลักษณะอย่างไร รวมทั้งให้ตรวจสอบด้วยว่า เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้เนื่องจากในพื้นที่ป่าอนุรักษ์หลายพื้นที่ มีแนวเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมทับซ้อนอยู่ ส่งผลให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ออกส.ป.ก. 4-01 ให้แก่ประชาชน โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งยังขัดต่อเจตนารมณ์ในการกำหนดพื้นที่เป็นป่าอนุรักษ์ อันเป็นสมบัติของแผ่นดินซึ่งสงวน อนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแลรักษาไว้เพื่อประโยชน์ของสาธารณชนในการตรวจสอบ ให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ทำหนังสือถึงสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบเพื่อประสานความร่วมมือในการตรวจสอบและขอข้อมูลเพื่อประกอบการตรวจสอบ แล้วให้รายงานมายังอธิบดีกรมอุทยานฯ เป็นระยะๆ
นายอรรถพลกล่าวว่า มาตรการหลังจากนี้ต้องร่วมมือกันทุกหน่วยงานเพื่อกำหนดข้อตกลงว่าด้วยการระวังหรือการรับรองแนวเขตที่ดินของรัฐที่อาจทับซ้อนกัน ก่อนที่จะออกเอกสารส.ป.ก. โดยมีสิ่งสำคัญที่ต้องระวัง 3 ประการคือ
1. ที่ดินดังกล่าวอยู่เขตที่รัฐมีกฎหมายประกาศเป็นที่สงวนหวงห้ามหรือไม่
2. ที่ดินดังกล่าวมีการทำประโยชน์หรือไม่
3. บุคคลที่จะได้รับอนุญาตเข้าใช้ประโยชน์มีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเน้นย้ำให้ดำเนินการโดยยึดหลักความถูกต้องของกฎหมาย
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในส่วนที่พบการบุกรุกแผ้วถางป่า ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและป.ป.ช. เนื่องจากคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ แจ้งความกล่าวโทษที่สภ. หมูสีและป.ป.ช. แล้ว แต่กรมอุทยานฯ จะขยายผลเชิงลึกเพิ่มเติมจากที่พบว่า มีการวางรูปแปลงอีกจำนวนมาก โดยต้องตรวจสอบว่า มีเจตนาที่จะออกหนังสืออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินแก่ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติหรือไม่ เรื่องนี้มีคนอยู่เบื้องหลังซึ่งจะต้องสาวให้ถึงอย่างแน่นอน.–512-สำนักข่าวไทย