ปิดภูกระดึงชั่วคราว หลังเหตุช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิต

กรุงเทพฯ 12 ธ.ค. – อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งปิดอุทยานฯ ภูกระดึง เป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเหตุช้างป่าที่คาดว่าตกมันทำร้ายนักท่องเที่ยววัย 49 ปี จนเสียชีวิต บริเวณเส้นทางหลังองค์พระพุทธเมตตา-น้ำตกเพ็ญพบใหม่


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายอดิสร เหมทานนท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ออกประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวและพักแรมทุกแหล่งชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย หลังเกิดเหตุช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวจนเสียชีวิต บริเวณเส้นทางหลังองค์พระพุทธเมตตา-น้ำตกเพ็ญพบใหม่ และพบว่าช้างตัวดังกล่าว ซึ่งมีอาการตกมันยังวนเวียนกลับเข้ามาในพื้นที่ท่องเที่ยว

ทั้งนี้ การปิดให้บริการมีผลตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2567 จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติและปลอดภัย ยกเว้นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศรีฐาน (เชิงเขา) และน้ำตกตาดฮ้อง ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลย. 3 (นาน้อย) ที่ยังเปิดให้บริการตามปกติ


ล่าสุด เจ้าหน้าที่กำลังเร่งอพยพนักท่องเที่ยวที่พักค้างบนภูกระดึงลงจากพื้นที่ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่และประสานนักวิจัยสัตว์ป่าเข้าควบคุมสถานการณ์และผลักดันช้างป่าให้กลับเข้าป่าปิด นักท่องเที่ยวที่อยู่บนเขาจำนวน 537 คน ได้รับอนุญาตให้พักที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง 1 คืน ก่อนจะทยอยเดินลงในวันถัดไป โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่พักในบ้านพัก 39 คน กางเต็นท์ 202 คน และอยู่ในพื้นที่อีก 296 คน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 889 คน และทยอยลงเขาแล้ว 279 คน

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเช้า เมื่อช้างป่าตัวหนึ่งได้เข้าทำร้ายนางสาวจีรนันท์ นักท่องเที่ยววัย 49 ปี ซึ่งกำลังเดินทางจากองค์พระพุทธเมตตาไปยังน้ำตกเพ็ญพบใหม่ แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ แต่นักท่องเที่ยวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นช้างได้ย้อนกลับมาวนเวียนในพื้นที่อีกครั้ง ดังนั้นจึงพิจารณาปิดอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของนักท่องเที่ยว

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการขอคืนเงินค่าจอง สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ www.dnp.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทร. 042-810-833 และ 042-810-834 หรือทางอีเมล pkd_11@hotmail.co.th โดยทางอุทยานฯ จะแจ้งกำหนดการเปิดให้บริการอีกครั้ง เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและพื้นที่ทั้งหมดจะกลับมาปลอดภัยอย่างสมบูรณ์. -512 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม