ฉะเชิงเทรา 7 ก.พ. – ชายสวมเสื้อสีชมพูที่ปรากฏในวงจรปิดหน้าอู่ “ช่างกิต” วันเกิดเหตุ เดินทางมาพร้อมเพื่อน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็นการอุ้มฆ่า “ใหม่” ด้านอาจารย์สักยันต์ ไขข้อข้องใจรอยสัก “น้องพร” เป็นยันต์หัวใจพระสีวลี เด่นด้านเมตตามหานิยม ไม่ใช่เรื่องเสน่หา
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย พานายบี อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่สวมเสื้อสีชมพู ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปที่หน้าอู่ช่างกิต ช่วงเวลา 02.10 น. วันที่ 28 ม.ค.67 เข้าพบตำรวจ สภ.บางปะกง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเหตุอุ้มฆ่านายธนาสันต์ หรือ ใหม่ สามีน้องพร ที่ถูกช่างกิต หรือนายกิตติโชติ อายุ 37 ปี อุ้มฆ่า ก่อนนำศพมาทิ้งบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ กม.41+100 ขาเข้า กทม. หมู่ 10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา หลังมีภาพนายพิชัยและเพื่อน ปรากฏบริเวณปากทางเข้าถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี ถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.30 ช่องคู่ขนาน ขาเข้าชลบุรี
นายบี เล่าว่า คืนเกิดเหตุนั่งซ่อมรถอยู่ที่อู่ฝั่งตรงข้ามกับอู่ช่างกิต และนำรถจักรยานยนต์ลูกค้าไปลองรถช่วงตี 1 ก่อนจะเห็นนายโอ๊ต อายุ 23 ปี หลานของช่างกิต ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าอู่ เลยขี่รถตามไปถึงร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะเอ่ยปากขอยืมเครื่องมือช่างกับนายโอ๊ต นายโอ๊ตบอกให้ตามไปเอาที่อู่ ในอู่น่าจะมีคนอยู่หลายคน แต่ไม่สนใจอะไร ก่อนจะรีบกลับไปที่อู่ เพื่อซ่อมรถจักรยานยนต์ต่อ ขณะนั่งทำรถอยู่สักพัก มีคนขับรถเก๋งสีแดงออกไปจากหน้าอู่ โดยไม่รู้ว่าใครขับออกไป พอมาเห็นข่าวมีวงจรปิดบอกว่าตนเองเป็นผู้ต้องสงสัยในคดี ทำให้ตนและครอบครัวไม่สบายใจ จึงประสานผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย เข้าให้ปากคำยืนยันความบริสุทธิ์
ด้าน พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เรียกประชุมชุดทำคดีที่ สภ.แสนภูดาษ เพื่อเร่งตรวจสำนวน และประชุมร่วมกันว่าต้องเรียกใครมาสอบสวนสวนเพิ่มเติม เนื่องจากคดีนี้มีความซับซ้อน ต้องทำสำนวนให้รัดกุมที่สุด
ส่วนกระแสรอยสักของ “น้องพร” วันนี้ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่พูดคุยกับนายสุทธิวิทย์ หรืออาจารย์วิทย์ อาจารย์สักยันต์ท่านหนึ่งที่อยู่ใน จ.สมุทรปราการ ให้ความเห็นถึงรอยสักน้องพรว่า เป็นยันต์หัวใจพระสีวลี ส่งเสริมด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม เสน่หา และยันต์ถุงเงินถุงทอง โภคทรัพย์ พร้อมเปิดยันต์ต่างๆ รวมถึงยันต์จิ้งจก
แต่ถ้าช่วยเรื่องเสน่ห์จะเป็นพวกรอยสักจิ้งจกสองหาง จิ้กจกคู่ แต่รอยสักแต่ละรอยสักจะขึ้นอยู่กับคนที่สักให้ด้วยว่าบรรจุพลังอานุภาพอะไรลงไป เช่น หัวใจพระสีวลี บรรจุเมตตาหรือเสน่หาได้ และแต่ละสำนักสักยันต์จะมีข้อห้าม ซึ่งครูบาอาจารย์ได้รับสืบทอดต่อกันมา เช่น การสักยันต์ห้ามกินมะเฟือง เพราะคนที่สักในเรื่องของคงกระพันชาตรี มะเฟืองจะทำลายความขลัง ห้ามด่าบุพการี ครูบาอาจารย์ ห้ามผิดลูกผิดเมีย เพราะจะทำให้ของย้อนกลับเข้าตัว ส่วนกรณีน้องพรไม่ได้ถือว่าขาดศีล เพราะเจ้าตัวไม่ได้ถือศีล แต่ละเมิดข้อห้ามของการสัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีกับตัวน้องพรเอง คือปฏิบัติแบบไหนได้แบบนั้น.-สำนักข่าวไทย
