เปิดคำสารภาพ “ช่างกิต” ให้เลือกเลิกกับ “พร” หรือ ตาย

ฉะเชิงเทรา 13 ก.พ. – ผู้การฉะเชิงเทรา เผยคำสารภาพ “ช่างกิต” จากในเรือนจำ ระบุลงมือสังหาร “นายใหม่” เพราะไม่พอใจคำตอบ ที่ขู่บังคับให้เลิกกับ “น้องพร” ตัดสินใจยิงในรถ ก่อนลากศพทิ้งข้างทาง


ความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่า “นายใหม่” หรือ นายธนาสันต์ หนุ่มโรงงาน นำศพที่ถูกจ่อยิงศีรษะ มือและเท้าถูกมัด ไปทิ้งบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ในพื้นที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีชนวนสังหารมาจากรักสามเส้า ระหว่าง “ช่างกิต” หรือนายกิตติโชติ กับผู้ตาย และนางสาววรรณพร หรือ “น้องพร” ซึ่งแม้ภายหลังปรากฏว่า “น้องพร” มีชายหนุ่มเข้ามาพัวพันอีกหลายคน แต่ยังไม่พบหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับการสังหารผู้ตาย

พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า จากการเข้าไปสอบปากคำ “ช่างกิต” ในเรือนจำ เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) หลังเจ้าหน้าที่ยังติดใจสงสัยในหลายประเด็น โดยเฉพาะเหตุจูงใจที่แท้จริงในการสังหาร อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และมือถือผู้ตายที่ยังหายไป รวมถึง “น้องพร” เกี่ยวข้องกับการตายของสามีหรือไม่


โดยระบุว่า ล่าสุด ช่างกิต ยอมเปิดปากสารภาพว่า ลงมือฆ่าผู้ตาย หลังบุกอุ้มตัวผู้ตายมาแล้ว และในระหว่างอยู่ด้วยกันบนรถเพียง 2 คน มีบทสนทนาที่มีข้อความท้าทายแล้วกินใจ ทำให้เกิดบันดาลโทสะ ก่อนจะใช้ปืนที่เตรียมไว้ลงมือสังหารทันที โดยหยุดรถแล้วยิงนายใหม่ ก่อนจะขับรถชิดซ้าย แล้วนำศพทิ้งข้างทาง

มีรายงานว่า คำพูดสำคัญที่ช่างกิต ใช้ถามนายใหม่ ก่อนลงมือสังหาร คือ ช่างกิตถามว่า “จะเลิกกับพรไป หรือจะเลือกตาย” ขณะที่นายใหม่ ตอบว่า “เมียกู มึงจะเอาไปได้ยังไง ถ้ามึงอยากได้ มึงก็ฆ่ากู”

ส่วนพฤติการณ์ในการก่อเหตุของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ตำรวจมีพยานหลักฐาน ทั้งกล้องวงจรปิด ข้อมูลโทรศัพท์ และข้อมูลการสอบสวนปากคำพยาน ทำให้เห็นพฤติการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่วันที่เข้าไปดูลาดเลา ทำให้ทราบพฤติการณ์ของผู้ตาย จากนั้นมีการชวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมาร่วมงาน เมื่อนายใหม่ออกจากบ้านมา ก็ขับรถเก๋งสีแดงติดตามมาแล้วปาดหน้ารถจักรยานยนต์ ก่อนนำตัวนายใหม่ขึ้นมาบนรถ


โดยระหว่างที่อยู่บนรถ พยายามที่จะพันธนาการนายใหม่ แต่ไม่สำเร็จ ก่อนจะนำตัวไปที่บ้านช่างกิต แล้วมือมัดมัดเท้านายใหม่จนสำเร็จ ซึ่งจากการสอบสวนชัดเจนแล้วว่า 2 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดี รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือใช้เชือกมัดมือและเท้านายใหม่ ก่อนที่ช่างกิตจะนำตัวไปและเกิดเหตุฆาตกรรม

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ยังบอกว่า สำหรับ “น้องพร” ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง “น้องพร” กับ “ช่างกิต” ที่แอบคบหากัน เป็นชนวนสำคัญของเรื่องนี้ แต่จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่ปรากฏว่า “น้องพร” มีส่วนร่วมในการวางแผน หรือให้การช่วยเหลือ หรือร่วมก่อเหตุในครั้งนี้

อีกส่วนหนึ่งที่ตำรวจพยายามตามหา คือ โทรศัพท์ของผู้ตายที่ยังหายไป รวมถึงปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเวลา 13.00 น. วันนี้ ได้ประสานชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูกว่า 20 นาย พร้อมเครื่องมือสแกนหาวัตถุ ค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ บริเวณคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ห่างจากจุดพบซากรถจักรยานยนต์นายใหม่ ประมาณ 300 เมตร หลังช่างกิต ให้การยืนยันว่านำปืนไปทิ้งไว้ ซึ่งเวลาผ่านไปจนถึงเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา ยังไม่พบปืนที่ใช้ก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามค้นหาต่อ โดยประสานขอกำลังสนับสนุนเพิ่มอีก 6 นาย เพื่อให้สำเร็จภารกิจ

คดีนี้แม้ตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุ นำโดย “ช่างกิต” พร้อมพวกรวม 5 คน ได้ครบแล้ว และนำตัวทั้ง 5 คน ไปฝากขัง กระทั่งศาลให้ประกันตัว 3 ใน 5 ผู้ต้องหา คือ นายปานเทพ (แท็ป) น.ส.อภิสรา (นิว) และนายนันทพัทธ์ (โอ๊ต) ออกมาต่อสู้คดี วงเงินคนละ 800,000 บาท ขณะที่มีรายงานว่า นายสุขสงกรานต์ (กาน) อยู่ระหว่างยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร