ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เตรียมสอบปากคำ “ช่างกิต” เชื่อยอมเปิดปาก

ฉะเชิงเทรา 9 ก.พ. – ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เตรียมเข้าสอบปากคำ “ช่างกิต” ในเรือนจำ เชื่อครั้งนี้น่าจะยอมเปิดใจให้ข้อมูลกับตำรวจทุกเรื่อง ขณะที่ศาลให้ประกันตัว “นิว” ผู้ต้องหาร่วมก๊วน “ช่างกิต”


ความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่านายธนาสันต์ เตอั้น หรือใหม่ หนุ่มโรงงาน ถูกทิ้งศพริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ พื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา แม้ตำรวจจะจับกุมผู้ก่อเหตุคือ นายกิตติโชติ แพไพรมูล หรือช่างกิต ผู้ต้องหาคนสำคัญ และพวกอีก 4 คน มาดำเนินคดี พร้อมนำตัวฝากขังแล้ว แต่หลายคนยังคงติดใจสงสัยว่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหรือไม่ โดยเฉพาะ น.ส.วรรณพร หลักแหลม หรือน้องพร ภรรยานายใหม่ ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีโลกหลายใบ ชายหนุ่มเข้ามาพัวพันหลายคน และหนึ่งในนั้นคือ ช่างกิต ที่เป็นผู้ลงมือสังหารสามีตัวเอง

ล่าสุด พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) ช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. น้องพรได้เดินทางมากับครอบครัว เพื่อพบพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.บางปะกง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด


ตำรวจสอบเพิ่มเติมในส่วนที่ยังสงสัยบางประการ และอยู่ระหว่างให้ทีมวิเคราะห์ของตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจสอบข้อมูลมือถือของกลุ่มผู้ต้องหาและของน้องพร ซึ่งมีทั้งข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคดี แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดที่ว่าน้องพรจะเชื่อมโยงกับคดีนี้หรือไม่ จึงต้องรอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดอีกครั้ง ตอนนี้มีการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปเก็บหลักฐานและสอบพยานที่พื้นที่เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลมาประกอบสำนวนให้แน่นหนามากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยืนยันตำรวจยังไม่หนักใจ เพราะทำตามหน้าที่และองค์ประกอบของหลักฐานที่พบทั้งหมด รวมทั้งดูหลักฐานของสื่อมวลชนด้วย ยอมรับว่าบางส่วนมีประโยชน์กับทางคดี

พล.ต.ต.นเรวิช เปิดเผยด้วยว่า เตรียมเดินทางเข้าไปในเรือนจำ เพื่อสอบปากคำช่างกิตอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าช่างกิตน่าจะมีความพร้อมให้ข้อมูลกับทางตำรวจ และครั้งนี้น่าจะยอมเปิดใจกับตำรวจทุกเรื่อง เพราะเชื่อว่าช่างกิตน่าจะรู้เรื่องราวของน้องพรบางส่วนแล้ว และจะเร่งเข้าสอบปากคำให้เร็วที่สุด เพื่อมาประกอบกับสำนวนคดีและเพื่อความกระจ่างของคดี


ศาลให้ประกันตัว “นิว” ผู้ต้องหาร่วมก๊วน “ช่างกิต”
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา น.ส.อภิสรา หรือ นิว 1 ใน 4 ผู้ต้องหา ร่วมก๊วน “ช่างกิต” ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากเรือนกลางฉะเชิงเทรา หลังญาติยื่นขอประกันตัวที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา วงเงินประกัน 800,000 บาท โดยมีรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีขาว ภายในรถมีแม่ของนิวเป็นคนขับ ชะลอรถจอดบริเวณหน้าประตูทางเข้าออกของเรือนจำ โดยไม่ลงมาจากรถ จากนั้นผู้คุมเรือนจำนำตัวนิวออกมาจากประตู โดยนิวถูกตัดผมสั้น สวมใส่แมสก์และหมวกปิดบังใบหน้า ติดกำไล EM ไว้ที่ขาซ้าย เดินออกมาจากประตู ก่อนจะรีบขึ้นรถโดยไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน

สำหรับนิว เป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหา ร่วมก๊วน “ช่างกิต” ถูกดำเนินคดี 3 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะ, ข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายที่ 2 ในคดีนี้ที่ได้รับการประกันตัว หลังจากเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ประกันตัวแท๊ป หนึ่งในผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ออกมาสู้คดี ใช้หลักทรัพย์เป็นที่ดินมูลค่า 800,000 บาท

“สาวพร 2” คืนของขลัง ชายหลงรัก 4 คน สามีจะขอเลิก
ส่วนที่ จ.สุรินทร์ สาวหน้าคล้ายน้องพรโผล่ โดยมีรูปลักษณ์และหน้าตาละม้ายคล้ายกับน้องพรที่กำลังตกเป็นข่าว แถมมีชื่อเดียวกันอีก คนที่ไม่รู้คิดว่าเป็นฝาแฝดกัน เพราะทั้งสีผมและหน้าตาดูคล้ายกันมาก หลังสามีจะขอเลิกเพราะมีผู้ชายมาติดพันหลายคน เชื่อว่าเป็นเพราะของขลังมหาเสน่ห์ที่ไปบูชามา จึงตัดสินใจนำมาคืน เพราะกลัวสามีจะขอเลิก

นางสาวพรพรรณ (พร) อายุ 37 ปี นำของขลังมาคืนให้กับ “แม่ครูขวัญ” ที่บ้านกันจารย์ ต.เมืองที อ.เมืองสุรินทร์ เพราะว่าสามีจะขอเลิก เหตุจากเมื่อเดือนที่แล้วมีปัญหากับสามี เพราะสามีไม่สนใจและไม่ยอมให้ความอบอุ่น ไม่นอนด้วย มีเพื่อนแนะนำมาว่าลองไปหาแม่หมอขวัญดู เพราะจะช่วยเรื่องเหล่านี้ได้

ต่อมานางสาวพรพรรณได้มาหาอาจารย์ขวัญ ขอให้ช่วยเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ ให้สามีรักสามีหลง อาจารย์ขวัญจึงได้ให้ของขลัง สักลายมือลงนะหน้าทอง และบูชาน้ำหอมคุณไสย์ “ความรักเมตตามหาเสน่ห์” และได้ฉีดใช้งานตามที่อาจารย์ขวัญบอก

นางสาวพรพรรณ บอกว่า หลังรับของขลังไปสามีจะขอเลิก เพราะมีผู้ชายมาติดพันเพิ่ม 4 คน จนสามีจับได้ ให้เอาของขลังทั้งหมดมาคืน และต้องยกขันธ์ 5 ขอขมาคืนของที่บูชาไป ก่อนจะลงนะหน้ากากทอง และสักยันต์เสน่ห์นางน้อยที่สันมือ เพื่อที่จะมัดใจคู่รักเพียงคนเดียว จะช่วยกันไม่ให้คนนอกเขามาชอบตน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]