ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เตรียมสอบปากคำ “ช่างกิต” เชื่อยอมเปิดปาก

ฉะเชิงเทรา 9 ก.พ. – ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เตรียมเข้าสอบปากคำ “ช่างกิต” ในเรือนจำ เชื่อครั้งนี้น่าจะยอมเปิดใจให้ข้อมูลกับตำรวจทุกเรื่อง ขณะที่ศาลให้ประกันตัว “นิว” ผู้ต้องหาร่วมก๊วน “ช่างกิต”


ความคืบหน้าคดีอุ้มฆ่านายธนาสันต์ เตอั้น หรือใหม่ หนุ่มโรงงาน ถูกทิ้งศพริมถนนเลียบมอเตอร์เวย์ พื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา แม้ตำรวจจะจับกุมผู้ก่อเหตุคือ นายกิตติโชติ แพไพรมูล หรือช่างกิต ผู้ต้องหาคนสำคัญ และพวกอีก 4 คน มาดำเนินคดี พร้อมนำตัวฝากขังแล้ว แต่หลายคนยังคงติดใจสงสัยว่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหรือไม่ โดยเฉพาะ น.ส.วรรณพร หลักแหลม หรือน้องพร ภรรยานายใหม่ ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีโลกหลายใบ ชายหนุ่มเข้ามาพัวพันหลายคน และหนึ่งในนั้นคือ ช่างกิต ที่เป็นผู้ลงมือสังหารสามีตัวเอง

ล่าสุด พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) ช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. น้องพรได้เดินทางมากับครอบครัว เพื่อพบพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.บางปะกง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด


ตำรวจสอบเพิ่มเติมในส่วนที่ยังสงสัยบางประการ และอยู่ระหว่างให้ทีมวิเคราะห์ของตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจสอบข้อมูลมือถือของกลุ่มผู้ต้องหาและของน้องพร ซึ่งมีทั้งข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคดี แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดที่ว่าน้องพรจะเชื่อมโยงกับคดีนี้หรือไม่ จึงต้องรอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดอีกครั้ง ตอนนี้มีการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปเก็บหลักฐานและสอบพยานที่พื้นที่เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลมาประกอบสำนวนให้แน่นหนามากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยืนยันตำรวจยังไม่หนักใจ เพราะทำตามหน้าที่และองค์ประกอบของหลักฐานที่พบทั้งหมด รวมทั้งดูหลักฐานของสื่อมวลชนด้วย ยอมรับว่าบางส่วนมีประโยชน์กับทางคดี

พล.ต.ต.นเรวิช เปิดเผยด้วยว่า เตรียมเดินทางเข้าไปในเรือนจำ เพื่อสอบปากคำช่างกิตอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าช่างกิตน่าจะมีความพร้อมให้ข้อมูลกับทางตำรวจ และครั้งนี้น่าจะยอมเปิดใจกับตำรวจทุกเรื่อง เพราะเชื่อว่าช่างกิตน่าจะรู้เรื่องราวของน้องพรบางส่วนแล้ว และจะเร่งเข้าสอบปากคำให้เร็วที่สุด เพื่อมาประกอบกับสำนวนคดีและเพื่อความกระจ่างของคดี


ศาลให้ประกันตัว “นิว” ผู้ต้องหาร่วมก๊วน “ช่างกิต”
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา น.ส.อภิสรา หรือ นิว 1 ใน 4 ผู้ต้องหา ร่วมก๊วน “ช่างกิต” ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากเรือนกลางฉะเชิงเทรา หลังญาติยื่นขอประกันตัวที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา วงเงินประกัน 800,000 บาท โดยมีรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีขาว ภายในรถมีแม่ของนิวเป็นคนขับ ชะลอรถจอดบริเวณหน้าประตูทางเข้าออกของเรือนจำ โดยไม่ลงมาจากรถ จากนั้นผู้คุมเรือนจำนำตัวนิวออกมาจากประตู โดยนิวถูกตัดผมสั้น สวมใส่แมสก์และหมวกปิดบังใบหน้า ติดกำไล EM ไว้ที่ขาซ้าย เดินออกมาจากประตู ก่อนจะรีบขึ้นรถโดยไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน

สำหรับนิว เป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหา ร่วมก๊วน “ช่างกิต” ถูกดำเนินคดี 3 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะ, ข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายที่ 2 ในคดีนี้ที่ได้รับการประกันตัว หลังจากเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ประกันตัวแท๊ป หนึ่งในผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ ออกมาสู้คดี ใช้หลักทรัพย์เป็นที่ดินมูลค่า 800,000 บาท

“สาวพร 2” คืนของขลัง ชายหลงรัก 4 คน สามีจะขอเลิก
ส่วนที่ จ.สุรินทร์ สาวหน้าคล้ายน้องพรโผล่ โดยมีรูปลักษณ์และหน้าตาละม้ายคล้ายกับน้องพรที่กำลังตกเป็นข่าว แถมมีชื่อเดียวกันอีก คนที่ไม่รู้คิดว่าเป็นฝาแฝดกัน เพราะทั้งสีผมและหน้าตาดูคล้ายกันมาก หลังสามีจะขอเลิกเพราะมีผู้ชายมาติดพันหลายคน เชื่อว่าเป็นเพราะของขลังมหาเสน่ห์ที่ไปบูชามา จึงตัดสินใจนำมาคืน เพราะกลัวสามีจะขอเลิก

นางสาวพรพรรณ (พร) อายุ 37 ปี นำของขลังมาคืนให้กับ “แม่ครูขวัญ” ที่บ้านกันจารย์ ต.เมืองที อ.เมืองสุรินทร์ เพราะว่าสามีจะขอเลิก เหตุจากเมื่อเดือนที่แล้วมีปัญหากับสามี เพราะสามีไม่สนใจและไม่ยอมให้ความอบอุ่น ไม่นอนด้วย มีเพื่อนแนะนำมาว่าลองไปหาแม่หมอขวัญดู เพราะจะช่วยเรื่องเหล่านี้ได้

ต่อมานางสาวพรพรรณได้มาหาอาจารย์ขวัญ ขอให้ช่วยเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ ให้สามีรักสามีหลง อาจารย์ขวัญจึงได้ให้ของขลัง สักลายมือลงนะหน้าทอง และบูชาน้ำหอมคุณไสย์ “ความรักเมตตามหาเสน่ห์” และได้ฉีดใช้งานตามที่อาจารย์ขวัญบอก

นางสาวพรพรรณ บอกว่า หลังรับของขลังไปสามีจะขอเลิก เพราะมีผู้ชายมาติดพันเพิ่ม 4 คน จนสามีจับได้ ให้เอาของขลังทั้งหมดมาคืน และต้องยกขันธ์ 5 ขอขมาคืนของที่บูชาไป ก่อนจะลงนะหน้ากากทอง และสักยันต์เสน่ห์นางน้อยที่สันมือ เพื่อที่จะมัดใจคู่รักเพียงคนเดียว จะช่วยกันไม่ให้คนนอกเขามาชอบตน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]